Airbnb ชี้ ‘อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย’ แนวโน้มการท่องเที่ยวนอกเมืองใหญ่เติบโตเชิงคุณภาพมากขึ้น จาก 50% ของการใช้จ่ายค่าที่พักในไทยเกิดขึ้นนอกเมืองใหญ่ เปิดโอกาสโฮสต์ ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก สร้างธุรกิจ สร้างงาน ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

การสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจระยะยาวที่ครอบคลุมและเป็นธรรมต่อชุมชนท้องถิ่นนำมาสู่การยกระดับการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน พร้อมตอบสนองต่อพฤติกรรมและความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยเทรนด์ท่องเที่ยวนอกเส้นทางหลัก เป็นอีกหนึ่งรูปแบบส่งเสริมการท่องเที่ยวที่สามารถพลิกโอกาสเศรษฐกิจท้องถิ่นและจีดีพีของประเทศ

นางมิช โกห์ ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Airbnb เปิดเผยว่า จากรายงานของ Oxford Economics และข้อมูลของ Airbnb สะท้อนว่ายังมีอีกหลายด้านของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สามารถเติบโตเชิงคุณภาพอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืน ทั้งด้านการกระจายฐานนักท่องเที่ยว ที่ผ่านมาประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างมากในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากตลาดที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้ช่วยลดการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งและเพิ่มความยืดหยุ่นในระยะยาว

โดยปี 2567 ข้อมูลของ Airbnb พบการจองที่พักจากตลาดระยะไกลเติบโตในอัตราเลข 2 หลัก เช่น ฝรั่งเศส สเปน สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ขณะที่ ประเทศในเอเชียแปซิฟิก เช่น จีน เกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และฮ่องกง  เป็นกลุ่มประเทศที่ติด  1 ใน 10 ตลาดนักท่องเที่ยวหลักของไทย

นอกจากนี้ การท่องเที่ยวในไทยยังได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวไปยังพื้นที่นอกเมืองหลัก ซึ่งช่วยกระจายรายได้ไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ จากข้อมูลของ Oxford Economics ในปี 2567 ระบุว่า ภาพรวมในปี 2567 กิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Airbnb สร้างมูลค่าเพิ่มแก่เศรษฐกิจไทยกว่า 72,000 ล้านบาท และทำให้เกิดการจ้างงานราว 109,000 ตำแหน่ง ซึ่งมีค่าจ้างงานรวม 16,000 ล้านบาท สิ่งที่น่าสนใจคือ 50% ของการใช้จ่ายค่าที่พักของนักเดินทาง Airbnb ในไทยเกิดขึ้นนอกเมืองใหญ่ ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจาก 46% ในปี 2562 สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเดินทางไปยังพื้นที่นอกเส้นทางหลักที่เพิ่มขึ้นในปี 2567

นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นด้านการตอบสนองต่อพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป นักเดินทางยุคใหม่มองหาประสบการณ์ที่หลากหลาย ยืดหยุ่น และมีความหมายมากขึ้น

โดยตัวเลขการเข้าพักระยะยาวบน Airbnb (ตั้งแต่ 28 คืนขึ้นไป) ในประเทศไทยในปี 2567  เติบโตมากกว่า 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยที่พักที่นักท่องเที่ยวมองหา จะเน้นที่สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ครัว พื้นที่ทำงานระยะไกล และเอกลักษณ์ท้องถิ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ Airbnb สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

Airbnb ค้นพบ 4 เทรนด์หลักที่น่าสนใจ

Airbnb ได้ทำการวิเคราะห์รูปแบบการเดินทางของนักเดินทางต่างชาติที่มาเยือนไทยไว้ในปี 2567 พบ 4 เทรนด์หลักที่น่าสนใจ  

•             นักท่องเที่ยวกำลังมองหาชายหาดที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก: จังหวัดตรังและสตูลบนชายฝั่งอันดามันของไทย และจังหวัดตราดและสงขลาบนชายฝั่งอ่าวไทย ติด 5 อันดับจุดหมายปลายทางชายหาดน้องใหม่ที่มาแรงที่สุด

•             การเติบโตของชายแดนภาคใต้: นราธิวาสติดอันดับจุดหมายปลายทางน้องใหม่ที่มาแรงที่สุดในชายแดนภาคใต้ ด้านจังหวัดใกล้เคียงอย่างปัตตานีและยะลาก็มีการเติบโตอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว Airbnb ต่างชาติ

•             ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) เริ่มได้รับความสนใจ: จากข้อมูลค้นหาของ Airbnb ในปี 2567 ระบุว่ากาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ และสกลนครติดอันดับ 3 จุดหมายปลายทางน้องใหม่ในภาคอีสาน

•             จุดหมายธรรมชาติและภูเขาได้รับความนิยม: แม่ฮ่องสอน เพชรบุรี และพังงา ติดอันดับ 5 จุดหมายปลายทางธรรมชาติและภูเขาน้องใหม่บน Airbnb

มิช กล่าวว่า แม้ว่าทิวทัศน์งดงามและวัฒนธรรมที่โดดเด่นของประเทศไทยจะเป็นแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือน แต่สิ่งที่โฮสต์ Airbnb ทำมากกว่าการให้ที่พัก คือสร้าง “ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง” ของชุมชน และสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้แก่นักเดินทาง ซึ่งความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงระหว่างผู้คนนี้เองที่ถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ที่ทรงพลังที่สุดของประเทศไทย และยังเป็นจุดแข็งสำคัญของ Airbnb เช่นเดียวกัน

ที่ผ่านมา Airbnb ร่วมกับกรุงเทพมหานครจัดทำ Airbnb Creative Guide to Bangkok ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ เพื่อโปรโมตย่านสร้างสรรค์ในกรุงเทพฯ รวมทั้งจัดทำ eGuide เชียงใหม่ ที่มีเนื้อหา แนะนำย่านและสถานที่ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งการได้ทำงานร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในหลายโครงการ อาทิ เปิดตัวเว็บไซต์ Beyond Big Cities เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน การร่วมทำแคมเปญ Live and Work Anywhere ตลอดจนการเข้าร่วมตัดสินการประกวดรางวัลสุดยอดหมู่บ้านท่องเที่ยวชนบท และร่วมแคมเปญ “มือใหม่หัดกรีน” ผลักดันการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ

มุมมองจาก 2 โฮสต์บน Airbnb

ณัฐ ฤทธารมย์  กล่าวเปิดใจว่า เริ่มสนใจเข้ามาเป็นโฮสต์ในเชียงใหม่ตั้งแต่ปี 2560 และได้รับสถานะ Superhost ภายใน 6 เดือน จากการนำเสนอที่พักพร้อมประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ และการบริการที่ยอดเยี่ยมจากสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับผู้เข้าพัก ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จ

“ผมมักจะได้รับคำติชมจากนักเดินทางที่เข้ามาพักว่า สิ่งที่ผมทำนั้นมีคุณค่า และนั่นเป็นกำลังใจอย่างมาก พวกเขาเป็นแรงผลักดันสำคัญในช่วงที่ผมเพิ่งเริ่มต้น จนถึงวันนี้ผมก็ยังติดต่อกับพวกเขาอยู่”

สิทธิโชค ไชยรัฐกาญจน์ กล่าวถึงการให้ความสำคัญกับการบริการ พร้อมปฏิบัติต่อนักเดินทางที่เข้ามาพักเหมือนเป็นเพื่อน และแบ่งปันข้อมูลอินไซต์ของชุมชนรวมถึงสถานที่เที่ยวลับๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อมอบประสบการณ์ท้องถิ่นที่แท้จริง

“นักเดินทางที่มาพักผ่าน Airbnb ให้ความสำคัญกับโฮสต์มาก ซึ่งนี่คือสิ่งที่ทำให้พวกเขาแตกต่างจากนักท่องเที่ยวทั่วไป โดยมองหาสิ่งที่เป็นท้องถิ่นมากกว่า ของจริงมากกว่า และผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้แบ่งปันด้วยสถานที่ลับมากมายในกาญจนบุรี”

ในปี 2567 การเดินทางระหว่างประเทศผ่าน Airbnb ยังคงแข็งแกร่ง โดยมีนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคิดเป็น 46% ของการจองที่พักในประเทศไทยผ่าน Airbnb ขณะที่นักท่องเที่ยวจากยุโรปเพิ่มขึ้นเป็น 29% (จาก 17% ในปี 2562) ขณะที่การจองที่พักจากนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย อยู่ที่ 93%  สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 83% และโอมาน (75%) โดยสัดส่วนตลาดที่สมดุลมากขึ้นนี้ช่วยให้เศรษฐกิจท่องเที่ยวของประเทศไทยมีความแข็งแกร่งและพร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคต โดย 10 อันดับแรกประเทศผู้เข้าพักในประเทศไทยมากที่สุด ในปี 2567 ที่จองที่พัก Airbnb ได้แก่ จีน, สหรัฐอเมริกา, เยอรมนี, สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เกาหลี, อินเดีย, ออสเตรเลีย, สิงคโปร์, เขตบริหารพิเศษฮ่องกง