ปภ. ติดตามพายุ “คาจิกิ” ให้พื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด สั่ง ศูนย์ ปภ. เขต Stand by เครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมออกปฏิบัติการทันที พร้อมประสานทุกภาคส่วนช่วยเหลือ – บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน

วันที่ 26 ส.ค.68 เวลา 10.00 น. นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธานการประชุม Situation Awareness Team (SAT) ติดตามสถานการณ์และผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” พร้อมประสานการทำงานกับจังหวัดเสี่ยงภัยในการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ย้ำศูนย์ ปภ. เขต สนับสนุนทรัพยากรและเครื่องจักรกลสาธารณภัยปฏิบัติการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด โดยมีผู้แทนกรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ตลอดจนศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงภัย เข้าร่วมประชุม ณ ห้องกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามการเคลื่อนตัวของพายุ “คาจิกิ” อย่างใกล้ชิด พบว่า เมื่อคืนนี้ (25 ส.ค. 68) พายุได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและคาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ส่งผลให้เมื่อวานนี้และวันนี้มีฝนตกในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน ได้แก่ เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู และอุดรธานี และคาดว่าในวันนี้และพรุ่งนี้ จะมีฝนตกในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณจังหวัดน่าน เชียงราย แพร่ พะเยา อุตรดิตถ์ ที่จะมีฝนตกหนัก ซึ่งถึงแม้ว่าพายุ “คาจิกิ” จะมีแนวโน้มรุนแรงน้อยกว่าพายุ “วิภา” แต่ยังต้องมีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความสูญเสียและบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากพายุลูกนี้
 
“ขอให้จังหวัดใช้กลไกการทำงานของ War room เพื่อติดตามสถานการณ์และบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการในช่วงเฝ้าระวังและเตรียมการรับมือ โดยให้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัยและแผนอพยพที่จังหวัดได้จัดทำและซักซ้อมไว้ และดูแลประชาชนให้ทั่วถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการดำรงชีพและด้านความปลอดภัย กรณีที่จังหวัดจะต้องระบายน้ำขอให้จังหวัดคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อปะชาชนในพื้นที่ เน้นการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์โดยที่ประชาชนในพื้นที่ริมน้ำและพื้นที่ท้ายน้ำได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ในส่วนของการปฏิบัติงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตที่ดูแลพื้นที่ได้นำเครื่องจักรกลสาธารณภัยไปประจำในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว โดย stand by ณ จุดระดมทรัพยากร (Staging Area) เพื่อให้สามารถปฏิบัติการได้ทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัยขึ้น และหากสถานการณ์มีความรุนแรงและเครื่องจักรกลสาธารณภัยที่มีไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน จังหวัดสามารถประสานมายังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ทันที เพื่อที่จะได้สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยไปปฏิบัติการในพื้นที่เพิ่มเติม” นายสหรัฐ รองอธิบดี ปภ. กล่าว

นายสหรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเครื่องจักรกลสาธารณภัยของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่ได้จัดส่งลงไปประจำยัง Staging Area ล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็น รถตรวจการณ์ รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย เครื่องสูบน้ำ เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ รถประกอบอาหาร เพื่อรองรับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นจากฝนที่จะตกลงมาในวันนี้และวันพรุ่งนี้ มีความพร้อมในการปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตอื่น ๆ ให้เตรียมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมเดินทางออกปฏิบัติภารกิจทันทีที่ได้รับการประสานจากจังหวัดและส่วนกลาง นอกจากนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยยังได้เตรียมพร้อมรองรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่เข้าถึงยาก โดยได้ stand by เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 จำนวน 2 ลำ พร้อมทีมนักบิน เจ้าหน้าที่กู้ภัยบนอากาศยาน และช่างประจำอากาศยาน “The Guardian Team” พร้อมยกตัวขึ้นบินปฏิบัติภารกิจทันทีที่ได้รับการประสานจากพื้นที่
 
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะปักหลักติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและประสานการทำงานกับทุกภาคส่วนอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็วและประชาชนได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด โดยประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร ความคืบหน้าสถานการณ์และการปฏิบัติงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารภัย DDPM และ X @DDPMNews และหากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อนจาก Line ID @1784DDPM หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานการให้ความช่วยเหลือต่อไป

#ปภ #ข่าว #คาจิกิ #พายุไต้ฝุ่น #น้ำท่วมฉับพลัน #น้ำป่าไหลหลาก #น้ำท่วมขัง #ดินโคลนถล่ม