วันที่ 26 ส.ค. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์  รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มวลชนชาวกัมพูชาเข้ารื้อรั้วลวดหนาม ที่บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า จากที่ได้รับรายงาน ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะเดินทางมาพบประชาชนคนไทยในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ทางกองทัพภาคที่ 1 กองกำลังบูรพา จึงได้วางแนวรั้วลวดหนามเพิ่มเติมเพื่อป้องกันชาวบ้านชาวกัมพูชาจะเข้ามารบกวน ซึ่งไม่ใช่ส่วนที่วางไว้เดิม ตนได้ให้แนวทางไปว่า เป็นการปฏิบัติในพื้นที่ประเทศไทยจะทำอย่างนี้ไม่ได้ผิดกฎหมายอาญา ในฐานความผิดทำลายทรัพย์สินทางราชการ และขอให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นเมื่อวันที่ 25 ส.ค.อีก ซึ่งผู้ที่จะแจ้งความเป็นใครก็ได้ จะเป็นกองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่ 1 หรือจังหวัดสระแก้ว จะต้องไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก เพราะประชาชนรับไม่ได้

พล.อ.ณัฐพล กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศไปด้วย เพราะนี่คือพื้นที่อธิปไตยของไทย เขาจะมาทำอย่างนี้ไม่ได้

เมื่อถามต่อว่า การปฏิบัติการหลังจากนี้จะเป็นในลักษณะการปราบกลุ่มผู้ชุมนุมใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ทางกองทัพภาคที่ 1 เริ่มใช้ LRAD เครื่องมือที่ช่วยสลายการชุมนุมในเบื้องต้น เพราะฉะนั้นจะต้องมีการเตรียมกำลังเพิ่มเติม พิจารณาใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะกำลังทหารอาจจะดูรุนแรงเกินไป

เมื่อถามว่า ชาวกัมพูชามีความพยายามจะใช้ชาวบ้านเป็นโล่กำแพงมนุษย์ เข้ามาสร้างความปั่นป่วนในพื้นที่ไทย มีรายงานหรือไม่ว่ามีทหารกัมพูชาอยู่เบื้องหลัง พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ไม่ต้องมีข้อมูล เพราะเขายืนอยู่ข้างหลังอยู่แล้ว ซึ่งเราได้ให้กองทัพภาคที่ 1 ทำหนังสือประท้วงไป และเรื่องนี้จะนำเข้าหารือในที่ประชุม GBC ในช่วงต้นเดือนก.ย.ด้วย แต่อย่างไรก็ไม่ได้รอการประชุม GBC เพราะได้สั่งให้ทำหนังสือประท้วงไปเรียบร้อยแล้ว

เมื่อถามว่า จะถึงขั้นใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูง หรือแก๊สน้ำตาหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งจากการประชุม RBC ของกองทัพภาคที่ 1 เมื่อวันที่ 22 ส.ค.มีข้อตกลงว่าจะมีการติดต่อสื่อสารกันระหว่างผู้ประสานงานในพื้นที่ วันนี้อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ ยอมรับว่าเมื่อวันที่ 25 ส.ค.กองทัพภาคที่ 1 ได้มีการพูดคุยกับทางกัมพูชา เหตุการณ์จึงคลี่คลายลงในตอนหลัง เนื่องจากกัมพูชาเข้าใจแล้วว่าไม่ได้เป็นการวางเพื่อสกัดกั้นเพิ่มเติม แต่เป็นการวางป้องกันเฉพาะกรณี

เมื่อถามว่า ในพื้นที่เขาพระวิหาร มีรายงานสถานการณ์เข้ามาบ้างหรือไม่เนื่องจากมีการรายงานว่า ทางกัมพูชาเติมกำลังเข้ามาในพื้นที่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า มี เราได้เตรียมพร้อมเอาไว้ ส่วนเจรจาก็เจรจาไป ส่วนเตรียมกำลังก็เตรียมกำลังไป เราจะต้องไม่ยอมมาปฏิบัติการอะไรทางทหารในพื้นที่เป็นอันขาด

เมื่อถามว่า จากที่แม่ทัพภาคที่ 2 ออกมาระบุว่าหากมีการล้ำในพื้นที่ จะไฟเขียวให้ยิงตอบโต้ได้ในทันที พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า แน่นอน เพราะตนพูดตั้งแต่ต้น ไม่ใช่ว่าหยุดยิงแล้วหยุดยิงตลอดไป หากเขาล่วงล้ำอธิปไตยก็สามารถทำตามอำนาจหน้าที่ได้เลย กฎใช้กำลังของกระทรวงกลาโหม ได้ให้อำนาจไว้แล้ว ผบ.เหล่าทัพ แม่ทัพภาค มีอำนาจทำได้อยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าหยุดยิงแล้วอย่างไรก็ไม่ยิง ยืนยันว่าไม่ใช่แน่นอน แต่อย่างไรไทยเรามีการเตรียมพร้อมไว้ทั้งหมด

เมื่อถามว่า หากมีการปะทะเกิดขึ้นอีกครั้งจะมีการเตรียมพร้อมอพยพประชาชนอย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ทางกระทรวงมหาดไทยเตรียมพร้อมอยู่แล้ว เช่นเหตุการณ์เมื่อคืนที่จ.สุรินทร์ ทางผวจ.สุรินทร์ ได้มีการเตรียมศูนย์อพยพเพิ่มเติม ยอมรับว่าทำให้คนในพื้นที่แตกตื่นอยู่เหมือนกัน แต่ยืนยันว่าไม่มีอะไร เป็นการเตรียมความพร้อมเอาไว้ เพราะไม่สามารถคาดการณ์เหตุการณ์อะไรไว้ล่วงหน้า

เมื่อถามถึงกรณีที่ผวจ.บันเตียเมียนเจย ส่งหนังสือมายังผวจ.สระแก้ว เรื่องการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินจะกระทบต่อความมั่นคงหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ต้องแยกกัน การออกเอกสารสิทธิ์หรือโฉนดเป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทย แต่เรื่องความมั่นคงปกป้องอธิปไตยเป็นเรื่องของกระทรวงกลาโหม โดยมีกระทรวงมหาดไทยสนับสนุน ต้องแยกออกจากกัน เรื่องเอกสารสิทธิ์ก็ว่ากันไป ส่วนการปกป้องอธิปไตยกระทรวงกลาโหมไม่ยอมอยู่แล้ว