วันที่ 26 สิงหาคม 2568 ที่ลานพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ดินแดง) สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (ปปส.กทม.) ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.น. 1, 5, 9), หน่วยสุนัขตำรวจ K9 และหน่วยอรินทราช เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นชุมชนแพร่ระบาดยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามนโยบาย "No Drugs No Dealers" โดยมี นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีปล่อยแถว พร้อมด้วย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, นายอำนาจ เหล่ากอที ผู้อำนวยการ ปปส.กทม. และเจ้าหน้าที่รวม 240 นาย พร้อมรถยนต์ 26 คัน เข้าร่วม

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นมาตรการสำคัญตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งสร้างชุมชนให้ปลอดภัยจากยาเสพติด ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการความร่วมมือ เพื่อกวาดล้างยาเสพติดใน กทม. ทั้ง 50 เขต ควบคู่กับนโยบาย "Seal Stop Safe" ทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าให้ปัญหาคลี่คลายในระยะเวลาเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็น 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ด้วยความคาดหวังว่ายาเสพติดต้องหมดไปจากสังคมไทย ผ่านการทำงานที่ครอบคลุมทั้งการป้องกัน ปราบปราม และบำบัดฟื้นฟู เพื่อให้สถิติผู้เสพลดลงและสังคมสามารถพึ่งพากลไกภาครัฐได้อย่างแท้จริง พร้อมย้ำว่าจุดมุ่งหมายคือการทำให้สังคมปลอดทั้งผู้ค้าและผู้เสพ โดยประชาชนและเจ้าหน้าที่ต้องร่วมมือกันแจ้งเบาะแสและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานป้องกันและบำบัดการติดยาเสพติด สำนักอนามัย พร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลอย่างเต็มที่ โดย กทม. จะเน้นการค้นหาผู้ติดยาเสพติดในชุมชนเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาและฟื้นฟู ซึ่งสามารถเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม. ทั้ง 69 แห่ง โดยไม่ต้องค้างคืน ครอบคลุมทั้งยาบ้า ยาไอซ์ เฮโรอีน และพืชกระท่อม ซึ่งในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา มีผู้เข้ารับการบำบัดแล้วกว่า 8,000 คน นอกจากนี้ ที่ผ่านมา กทม. ยังสามารถยืดอายุการเข้าถึงยาเสพติดของเด็กและเยาวชนได้มากขึ้น โดย กทม. ดำเนินการภายใต้หลักการ "ช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติด" ให้กลับคืนสู่สังคม ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ค้าเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย

ขณะที่ พล.ต.ท.สยาม บุญสม เปิดเผยผลการปฏิบัติการว่า ได้เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายแล้ว 376 ชุมชน สามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติดได้มากกว่า 800 ราย และนำผู้เสพเข้าสู่ระบบบำบัดกว่า 5,000 ราย พร้อมกันนี้ได้ย้ำเตือนอย่างเด็ดขาดว่า หากสถานบริการใดปล่อยปละละเลยให้มีการซื้อขายหรือเสพยาจะถูกสั่งปิดทันที และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะถูกดำเนินการทางวินัยอย่างไม่มีข้อยกเว้น

ทั้งนี้ คณะผู้บริหารได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดคัดกรองและรับบำบัด ณ ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ชุมชนริมทางรถไฟสายท่าเรือ เขตคลองเตย เพื่อติดตามการดำเนินงานและรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชน พร้อมทั้งเยี่ยมบ้านและมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง ซึ่งจากการลงพื้นที่พบผู้ป่วยยาเสพติดจำนวนหนึ่ง โดยมีเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องดูแลและรวบรวมเบาะแสเพื่อแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป

​​​​​​​