ในช่วงที่เศรษฐกิจไทยเผชิญความท้าทาย ทั้งค่าครองชีพที่สูง รายได้ไม่เพิ่มตามรายจ่าย และความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอก คนจำนวนไม่น้อยตกอยู่ในภาวะความเครียดสะสม การเสพข่าวสารที่เต็มไปด้วยความรุนแรง ยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้สภาพจิตใจเปราะบางมากขึ้น

ล่าสุด เหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ได้กลายเป็นข่าวใหญ่ที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากวิตกกังวลต่อความมั่นคงในภูมิภาค ขณะเดียวกัน ข่าวฉาวในแวดวงพระสงฆ์ก็สร้างความสะเทือนใจแก่ศรัทธาชาวพุทธ ซึ่งการรับข้อมูลเหล่านี้อย่างต่อเนื่องอาจทำให้ผู้บริโภคข่าวเกิดความรู้สึก “หมดหวัง” หรือ “โกรธเกลียด” ได้โดยไม่รู้ตัว

* ข่าวรุนแรงกับผลกระทบทางจิตใจ

นักจิตวิทยา มองว่า การเสพข่าวที่เต็มไปด้วยความรุนแรงหรืออื้อฉาวในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย อาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจอย่างรุนแรงขึ้นกว่าปกติ เพราะผู้คนมีความเครียดสะสมอยู่แล้ว การรับข้อมูลเชิงลบซ้ำ ๆ จะยิ่งทำให้เกิดอาการ วิตกกังวล เหนื่อยล้า หรือแม้แต่หมดศรัทธาในสังคม

* วิธีควบคุมอารมณ์และการเสพข่าวอย่างสร้างสรรค์

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า การมี “ภูมิคุ้มกันทางใจ” เป็นสิ่งสำคัญในยุคนี้

เลือกเสพข่าวจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ลดการติดตามข้อมูลที่เกินจริงหรือข่าวลือ

จำกัดเวลาเสพข่าว ไม่ควรปล่อยให้สมองรับแต่ข่าวร้ายตลอดทั้งวัน

เติมสมดุลด้วยกิจกรรมบวก เช่น ออกกำลังกาย ทำสมาธิ หรือพูดคุยกับครอบครัว

ตั้งสติแยกแยะประเด็น ข่าวชายแดนควรมองในมุมข้อเท็จจริงด้านความมั่นคง ส่วนข่าวในวงการศาสนา ควรแยกพฤติกรรมบุคคลออกจากหลักคำสอน

* สังคมไทยในยุคเปราะบาง

เศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยและข่าวสารที่รุนแรงกำลังทดสอบความแข็งแกร่งของคนไทยในทุกมิติ ทั้งในฐานะประชาชน ผู้บริโภค และผู้ศรัทธาในศาสนา การจัดการอารมณ์ต่อข่าวสารจึงไม่ใช่เพียงการปกป้องตัวเอง แต่ยังเป็นการสร้างสังคมที่มีสติ และไม่ตกเป็นเหยื่อของกระแสข่าวที่ถูกขยายจนเกินจริง


#เปิดคู่มือการใช้ชีวิต #วิกฤตเศรษฐกิจ #วิธีรับมือข่าวรุนแรง #ไทยกัมพูชา #ข่าวฉาววงการสงฆ์ #หลวงพ่ออลงกต #หมอบี