วันที่ 25 ส.ค.68 ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีย์กุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พบบุคลากร และนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมสนทนาพิเศษ "เรื่องจริงจากชายแดน" โดยมีผู้ร่วมงาน ทั้งนิสิตปัจจุบัน และนิสิตเก่า บุคลากร เต็มความจุล้นออกจากห้องประชุม
พลโทบุญสิน กล่าวในช่วงหนึ่งว่า อยากขอให้วงซิมโฟนี่เกษตรศาสตร์ บรรเลงเพลงชาติไทย ซึ่งเป็นเพลงที่บางคนร้องเบา บางคนไม่อยากร้อง บางคนไม่มีที่จะร้องด้วยซ้ำ เพราะไม่มีแผ่นดินที่จะให้ร้อง พวกเรามีแผ่นดิน ร้องเขินๆ อายๆ ทำไมเราไม่ร้องดังๆ ถ้าเราไม่มีที่ร้อง เพลงนี้เราจะไม่ได้ร้องเลย ตนอยากจับมือทุกท่านร่วมร้องเพลงชาติด้วยกัน ตนมาวันนี้ ไม่ได้มาทอล์คโชว์ แม้ตนจะเกษียณจากตำแหน่งแม่ทัพ แต่ไม่ได้เกษียณจากความเป็นคนไทย จะอยู่กับพี่น้องคนไทยจนกว่าจะสิ้นลม
"ขอย้ำว่าผมไม่เล่นการเมือง อยู่ตรงไหนก็ได้ที่ไม่มีผลประโยชน์ คำพูดนี้คงจะสื่อไปถึงหลายท่าน ที่ชักชวนผมเล่นการเมือง ผมไม่ถนัด แต่ถนัดปกป้องแผ่นดินเพื่อประเทศชาติ ด้วยเหตุนี้ที่พี่น้องคนไทยคิดถึงผม เพราะไม่ใช่หน้าตาดีอะไรมากมาย" พลโทบุญสิน กล่าว
พลโทบุญสิน กล่าวต่อว่า ขอทุกคนดูแถบสีธงชาติให้รักษาสามสีนี้ให้ดี บรรพบุรุษพระมหากษัตริย์ไทยในอดีต สละเลือดเนื้อรักษาไว้กว่าจะได้มาซึ่งความเป็นชาติและแผ่นดินให้ลูกหลานเราอยู่ ต้องต่อสู้มาด้วยความยากลำบาก มาถึงยุคพวกเรา ไม่อยากให้ทะเลาะกัน อยากให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ขอถามคนที่ด่าแม่ทัพในเฟซบุ๊ก ว่าเป็นคนไทยหรือไม่ ถ้าเป็นคนไทยจะไม่ตอบโต้ แต่ถ้าเป็นชาติอื่นตอบโต้ได้ ไม่มีประโยชน์อะไร เรานึกถึงแผ่นดินนี้เพื่อให้ลูกหลานเราดีกว่า
"พระมหากษัตริย์ เป็นหลักชัยให้ประเทศชาติ ท่านเป็นกลางทุกอย่าง ท่านไม่ยุ่งเรื่องการเมืองทั้งสิ้น ท่านเป็นจอมทัพไทยที่ดูแลเสาหลักให้กับประเทศชาติ ผู้ที่ใกล้ชิดท่าน ทำงานเข้าเวร จะต้องไม่เกี่ยวกับการเมือง รัชกาลที่ 9 พัฒนาทุกอย่างจนเสด็จพระราชดำเนินไม่ไหว
ส่วนรัชกาลที่ 10 ท่านเป็นหลักชัยให้กับประเทศชาติ ต้องคงไว้ อดีตไม่รู้ว่ามีเท่าไหร่ ปัจจุบันมีเท่านี้ ผมในฐานะแม่ทัพภาคที่ 2 จะต้องดูแลแผ่นดินนี้ให้ดีที่สุด ถ้ารุกเข้ามาในห้วงที่ผมอยู่ ไม่ได้เด็ดขาด คุณจะเป็นใครยิ่งใหญ่มาจากไหน ไม่ได้" พลโทบุญสิน กล่าว