จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่ง เผยแพร่รูปภาพ ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด โดยระบุว่า ถูกช่างซ่อมจยย.ทำร้ายร่างโดยไม่ทราบสาเหตุ สถานที่เกิดเหตุ เป็นร้านซ่อมจยย.ภายในซอย เชิดวุฒากาศ 5 แขวง ดอนเมือง เขต ดอนเมือง กทม. 

วันที่ 25 ส.ค.68 ที่ สน.ดอนเมือง นาย พุทธพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42ปี เปิดเผยว่า เมื่อวานวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 10 โมงเช้า ตนขับรถวิ่งงานอยู่บริเวณสนามบินดอนเมือง และประสบเหตุสายพาน รถจยย.ขาด จึงนำรถไปซ่อมที่ซอยเชิดวุฒากาศ 5 เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์ หาร้านซ่อมยาก บังเอิญมีคนแนะให้ไปซ่อมที่ซอยนั้น พอไปถึงได้แจ้งรายละเอียดให้ช่างฟังว่าสายพานขาด และตกลงราคาซ่อมเรียบร้อย พอเริ่มซ่อม เปลี่ยนสายพานแล้วถอดชุดข้างออก ตนเดินไปซื้อน้ำอัดลมมาให้ช่างดื่มคลายร้อน  

ต่อมาเวลาประมาณ เที่ยงกว่าๆ เพื่อนผู้ก่อเหตุมานั่งรอ ตนได้ยินคุยว่าจะออกไปข้างนอกด้วยกัน แต่ไม่ทราบว่าที่ไหน หลังจากที่ประกอบชุดข้างเสร็จ รถสตาร์ทไม่ติดช่างผู้ก่อเหตุหาสาเหตุไม่ได้ ซึ่งตนได้ยืนยันว่ารถก็สตาร์ทติดปกติ แค่สายพานขาด ในขณะเดียวกันเพื่อนผู้ก่อเหตุเริ่มบ่นว่า "นานจัง" จากนั้นผู้ก่อเหตุเริ่มมีอาการ หงุดหงิด สักพักถอดชุดข้างรื้อรถจยย.ออกมาอีกรอบเพื่อหาสาเหตุ หาสาเหตุไม่ได้ ส่วนเพื่อนก็บ่นว่าซ่อมนาน หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุเดินเข้าไปในบ้านและเดินกลับมาแล้วบ่นว่ารถไม่ติดจะ"เอายังไงวะ" ตนก็เงียบก้มหน้าดูมือถือ ผู้ก่อเหตุเริ่มใช้น้ำเสียงไม่ดีและลงมือทำร้ายตนโดยไม่ทันตั้งตัว ทั้งตบและต่อยโดนชกเข้าไปที่ใบหน้าหลายครั้ง จากนั้นผู้ก่อเหตุดึงปืนที่เอวออดมา ชี้หน้าและจ่อที่หัวตน หาว่ารถตนแบตไม่ดี ตนพึ่งเปลี่ยนแบตมาไม่นาน หลังจากนั้นใช้ด้ามปืนตบหัวแตก ตนวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากคนแถวนั้นให้แจ้ง 191 และเรียกรถพยาบาล ตนรอไม่ไหวเลยวิ่งข้ามไปถนนอีกฝั่ง โบกรถแท็กซี่ไปส่งที่ สน.ดอนเมืองแจ้งความทันที

ภายหลังจากแจ้งความที่ สน. ดอนเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สายตรวจไปเอารถของตน เชิญผู้ก่อเหตุมา สน. เบื่องต้นผู้ก่อเหตุ อ้างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเมาพูดจาไม่รู้เรื่องแล้วเข้ามาซ่อมรถทำให้เกิดเรื่อง ยืนยันว่าตนไม่ได้ดื่มสุรา และไม่มีอาการมึนเมาพูดจาไม่รู้เรื่องแต่อย่างไร ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และฝากบอกถึงผู้ก่อเหตุว่ามาที่ทำร้าย ตนก็ไม่ได้ว่าอะไรและไม่ได้เร่งช่างทำไมไม่พูดกันดีๆ

นาย บุญเกิน แอดมินกลุ่มgเคลื่อนที่เร็วช่วยเพื่อนไรเดอร์ เปิดเผยว่า เมื่อตนเห็นโพสต์ดังกล่าวจึงได้ยื่นมือให้การช่วยเหลือเพื่อนไรเดอร์ ซึ่งครั้งนี้เราเข้ามาช่วยเหลือเพื่อนไรเดอร์เพื่อให้ได้รับความยุติธรรม เนื่องจากผู้เสียหาย เพียงแค่เข้าไปซ่อมรถทำไมถึงกับถูกทำร้ายขนาดนี้ และผู้เสียหายก็เป็นคนหาเช้ากินค่ำอาชีพสุจริต ถ้าเกิดเหตุบานปลาย เสียชื่อขึ้นมาครอบครัวเค้าจะทำอย่างไร จึงเข้าช่วยเหลือติดตามความคืบหน้า โดยพรุ่งนี้จะไปที่สน. ดอนเมืองเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีต่อไป