'ณัฐพงษ์' พร้อม 2 สส. ประชาชน เข้าไต่สวนมูลฟ้อง คดี 'บ. พลังงานยักษ์ใหญ่' ฟ้องหมิ่น 300 ล้าน ย้ำมีเจตนาบริสุทธิ์ในการทำหน้าที่ผู้แทน พร้อมเข้าสู่กระบวนการ
วันที่ 25 ส.ค.68 เวลา 12.30 น. ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายวรภพ วิริยะโรจน์ สส. แบบบัญชีรายชื่อ และ นายศุภโชติ ไชยสัจ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ภายหลังเข้าไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่ บริษัท กัลฟ์ เดเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นโจทก์ฟ้องหมิ่นประมาท และเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง ทั้ง 3 คน รวม 300 ล้านบาท สืบเนื่องจากการแถลงข่าวและอภิปรายตั้งข้อสังเกตต่อโครงการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนของรัฐบาล
หลังการไต่สวนมูลฟ้องที่ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง นายณัฐพงษ์ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดยระบุว่า วันนี้เป็นกระบวนการปกติของศาล ซึ่งยังไม่จบดี ทางโจทก์อยากให้พยานมาไต่สวนมูลฟ้องเพิ่มเติม ซึ่งมีการนัดหมายอีกครั้งในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ โดยกระบวนการก็จะมีการเปิดเผยอยู่แล้วว่าพยานฝ่ายโจทก์จะเป็นใคร แต่ตอนนี้ยังไม่ขอลงรายละเอียด
นายณัฐพงษ์ยืนยันว่า มีเจตนาสุจริตในการทำหน้าที่ สส. ในการตรวจสอบการดำเนินนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะ ประชาชน ขณะเดียวกัน ฝ่ายโจทก์ก็มีสิทธิ์ที่จะยื่นฟ้อง ซึ่งจะเป็นอย่างไรก็เชื่อว่า ศาลจะให้ความยุติธรรมแก่เราได้
ส่วนความเป็นเอกสิทธิ์ สส. สามารถคุ้มครองในคดีนี้ได้หรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาในหลายๆ ครั้ง เราก็จะเห็นการอภิปรายของ สส. ในสภาฯ อาจจะมีประเด็นที่ทำให้เกิดการฟ้องร้องขึ้นมาได้ แต่ตนเองขอไม่ลงรายละเอียด เพราะตนเองตกเป็นจำเลยในคดีนี้โดยเกิดจากการแถลงข่าว ส่วนนายวรภพ และนายศุภโชติ เกิดจากการอภิปรายในสภาฯ
สำหรับรายละเอียดของการต่อสู้คดีจะขอให้ทนายความดำเนินการตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ส่วนตัวไม่ได้มีข้อห่วงใยใดๆ พวกเราก็พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการที่ศาลเห็นว่าสมควร เพื่อยืนยันเจตนาบริสุทธิ์ของเราในการทำหน้าที่ สส.
ขณะที่คดีนี้จะถือเป็นการฟ้องร้องปิดปากผู้วิพากษ์วิจารณ์หรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ไม่สามารถให้ความเห็นได้ คิดว่าสื่อมวลชนและประชาชนที่ติดตามอยู่ จะมีวิจารณญาณในการติดตามข่าวสาร พวกเราก็ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ว่าที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น ที่มีการรายงานข้อเท็จจริงต่อสาธารณะ และในคดีนี้เป็นการไต่สวนมูลฟ้องฝั่งของโจทก์ที่จะต้องเตรียมพยานมา
ด้านทนายความของทั้ง 3 สส. เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการนัดไต่สวนมูลฟ้อง ศาลจะพิจารณาจากหลักฐานของฝ่ายโจทก์เป็นหลัก ว่าคดีมีมูลสมควรพอที่จะพิจารณารับฟ้องไว้หรือไม่ ซึ่งในครั้งนี้ฝ่ายจำเลยไม่มีสิทธิจะนำพยานของตนเองเข้าไต่สวนต่อศาล ซึ่งจะเป็นกระบวนการในอนาคตหากศาลพิจารณาว่าคดีนี้สมควรรับไว้พิจารณา ก็จะมีกำหนดนัดตอบคำให้การ นัดสืบพยานของทั้งฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยต่อไป แต่ขณะนี้กระบวนการไต่สวนมูลฟ้องยังไม่เสร็จสิ้น ก็ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีการเตรียมพยานหลักฐานอย่างไรบ้าง