วันที่ 25 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) วันนี้ (25 ส.ค.) ซึ่งเป็นการประชุมระดับเจ้าหน้าที่ เงื่อนไขของกองทัพภาคที่ 2 จะเหมือนกองทัพภาคที่ 1 หรือจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ว่า คงไม่มี เป็นประเด็นต่อจากการประชุมต่อจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ครั้งที่ผ่านมา แต่อาจจะแตกต่างกันบ้างจากสภาพพื้นที่และสภาพปัญหา โดยพื้นฐานเป็นเรื่องต่อจากจีบีซีครั้งที่แล้ว และเป็นเรื่องระดับแม่ทัพไปคุยกัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเส้นแดน และทำอย่างไรที่จะทำให้ได้ข้อสรุปตรงกันมากที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวโน้มน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีใช่หรือไม่ ซึ่งมีเรื่องของรั้วลวดหนามที่แตกต่างจากกองทัพภาคที่ 1 นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องรั้วลวดหนามอาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่ได้คุยกันมา เพราะเราไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย เข้าใจว่าทูตทหารที่กัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไปแล้ว ขณะนี้สิ่งที่เป็นปัญหาที่เราหนักใจอยู่บ้างคือ เวลาพูดตกลงกันก็อาจจะเป็นอีกอย่างหนึ่ง ทางกัมพูชา ทางโฆษกของเขาชี้แจงก็อาจจะเป็นอีกแบบหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เห็นปรากฏอยู่เสมอๆ ตั้งแต่สมัยที่ตนเป็น รมว.กลาโหม แล้ว
เวลานี้ข้อมูลหลักฐานต่างๆ มีการรวบรวม และขณะนี้ รมว.ต่างประเทศ ได้เดินทางไปยังเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อไปพบกับคณะกรรมการที่เกี่ยวกับอนุสัญญาออตตาวา เพื่อเอาหลักฐานทั้งหมดไปคุย เราสู้ในทิศทางของเราอยู่แล้วคือ ใจเย็น รักสันติ และไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตย ขณะเดียวกัน ก็รวบรวมพยานหลักฐาน ตนได้สั่งการตลอดว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นให้เก็บหลักฐาน รายละเอียดต่างๆ ขณะนี้เสียงตอบรับต่างประเทศค่อนข้างดี รู้สึกว่าสิ่งที่เราพูดมีความชัดเจน ขณะที่ทางกัมพูชาพูดอะไรของเขาก็พูดไป ก็แล้วแต่ เพราะความจริงคือความจริง ต่างประเทศได้เห็น
เมื่อถามว่า ขณะนี้กัมพูชามีการชุมนุมเรียกร้องให้โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เข้ามา ถึงขั้นจะตั้งชื่อถนนในกัมพูชาเป็นชื่อของโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลต่อการพูดคุยระดับทวิภาคีของไทยกับกัมพูชาที่ดำเนินการอยู่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นสิทธิของกัมพูชา เราไม่ก้าวล่วง
เมื่อถามว่า ครบรอบ 1 เดือน สถานการณ์ไทย-กัมพูชา มีแนวโน้มทิศทางที่ดีขึ้นมากน้อยแค่ไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ และถ้าไปดูประวัติศาสตร์โลก ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ประเทศไทย การเจรจาเรื่องเขตแดนไม่เคยจบได้ง่ายๆ บางประเทศเป็นหลายๆ สิบปี หรือบางประเทศเป็นร้อยปีก็มี เพราะฉะนั้นตอนนี้เพิ่งเริ่มต้นในรอบใหม่ จริงๆ เรามีปัญหามาตลอด แต่ก็จบได้เป็นช่วงๆ อยู่ที่ว่าแต่ละช่วงสถานการณ์เป็นอย่างไร อย่าไปกังวลใจ ถ้ารายังยืนอยู่จุดที่เห็นควรว่าไม่ควรทำให้เกิดสงครามถ้าไม่จำเป็น และยังยืนยันที่จะรักษาผลประโยชน์ อธิปไตยของประเทศ เจรจาจบหรือไม่จบมันยังอยู่แค่ตรงนี้ ไม่รุกล้ำไปไหน