วันที่ 25 สิงหาคม 2568 ที่สำนักการระบายน้ำ นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำทะเลหนุนและน้ำเหนือไหลหลากประจำปี 2568 โดย สนน. ได้วางแผนเรียงแนวกระสอบทรายป้องกันในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมความยาวทั้งสิ้น 3,222 เมตร คาดว่าจะต้องใช้กระสอบทรายทั้งหมด 198,700 กระสอบ จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2568 ได้ดำเนินการไปแล้ว 853 เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 34 ของแผนทั้งหมด โดยใช้กระสอบทรายไปแล้ว 68,600 กระสอบ
สำหรับความคืบหน้าในแต่ละพื้นที่พบว่า พื้นที่กรุงเทพเหนือ ที่เขตดุสิต ระยะทาง 48 เมตร ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว 100% โดยใช้กระสอบทราย 7,300 กระสอบ ที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งพระนคร เขตดุสิต ได้แก่ ท่าเรือเขียวไข่กา ช่องลงเรือ, สถานีดับเพลิงสามเสน ช่องอู่เรือ, วัดราชผาติการาม (ชุมชนหน้าวัด), วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร ช่องลงเรือ ท่าวาสุกรี
ขณะที่พื้นที่กรุงเทพใต้ ซึ่งครอบคลุมเขตพระนคร, สัมพันธวงศ์, บางรัก, สาทร, บางคอแหลม, ยานนาวา และคลองเตย มีความยาวตามแผน 1,487 เมตร ดำเนินการแล้ว 550 เมตร หรือร้อยละ 46 ของพื้นที่ ใช้กระสอบทราย 50,200 กระสอบ คาดว่าต้องใช้ทั้งหมด 107,900 กระสอบ ในพื้นที่เขตต่าง ๆ เช่น พื้นที่เขตพระนคร บริเวณบ้านบรรทมสินธุ์ และท่าเรือเทเวศร์, ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ช่องทางลงเรือ), ศูนย์การท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร (ช่องลงเรือ), ท่าราชวรดิฐ, ตลาดท่าเตียน (ช่องทางลงเรือ), ท่าเรือแดง (ช่องทางลงเรือ), ท่าเรือสุพรรณ (ช่องทางลงเรือ), ใต้สะพานพุทธฯ (ช่องทางลงเรือ)
พื้นที่เขตคลองเตย บริเวณใต้ทางด่วนชุมชนหิมะทองคำ, ท่าทรายวัดสะพาน, ชุมชนหลังโรงฟอกหนัง, water ford (สุขุมวิท 50), บริเวณท่าทรายสมบัติเชษฐา ซอยภูมิจิตร และพื้นที่เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณท่าน้ำศาลเจ้า, ซอยเทียนวัฒนา, โรงพริก, บ้านสีฟ้า, บริษัทไทโฮ, ร้านอาหารบ้านริมน้ำ และศาลเจ้าโรงเกือก
ส่วนพื้นที่ธนบุรี ครอบคลุมเขตบางพลัด, บางกอกน้อย, บางกอกใหญ่, ธนบุรี, คลองสาน, ราษฎร์บูรณะ รวมถึงริมคลองมหาสวัสดิ์ในเขตตลิ่งชันและทวีวัฒนา มีความยาวตามแผนมากที่สุดคือ 1,667 เมตร ดำเนินการแล้ว 255 เมตร คิดเป็นร้อยละ 34 ใช้กระสอบทราย 11,100 กระสอบ คาดว่าต้องใช้ทั้งหมด 80,500 กระสอบ ในพื้นที่เขตต่าง ๆ เช่น พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี เขตบางพลัด บริเวณซอยจรัญฯ 92, วัดเทพนารี, วัดเทพากร, ซอยจรัญฯ 80, ซอยจรัญฯ 74, ซอยจรัญฯ 72, ซอยจรัญฯ 66 (วังเจ้าพร้อม), บ้านอนันตกูล (water front), ชุมชนวัดภคินีนาถ, ชุมชนบ้านปูน, ใต้สะพานพระราม ๘ เป็นต้น
พื้นที่เขตบางกอกน้อย บริเวณโรงแรมชาญ, มัสยิดหลวง, กองเรือเล็ก, คลองต้นไทร, คลองน้ำดอกไม้, ซอยบางขุนนนท์ 24, วัดระฆัง เป็นต้น และเขตธนบุรี บริเวณโบสถ์ซางตาครูซ, โรงเรียนซางตาครูซ, โกดังหวังหลี (เจริญนคร 61), วัดดาวคะนอง
พื้นที่เขตราษฎร์บูรณะ บริเวณโกดังไทยฟ้า, โกดังสยามทรานซิสเต็ม, โกดังเจริญไทยค้าข้าว, ปั้มน้ำมันซัสโก้, ซอยราษฎร์บูรณะ 17, Big C ราษฎร์บูรณะ, โกดังคลังสินค้าธนบุรี, โกดังกรุงไทย, ใต้สะพานพระราม ๙ เป็นต้น
ส่วนพื้นที่กรุงเทพตะวันออก เขตบางนา ระยะทาง 20 เมตร ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าต้องใช้กระสอบทรายทั้งหมด 3,000 กระสอบ ที่บริเวณช่องลงเรือกรมสรรพาวุธทหารเรือ และแนวรั่วซึมบางจุด
สำหรับการทำแนวเรียงกระสอบทรายป้องกันน้ำทะเลหนุนและน้ำเหนือไหลหลาก ประจำปี 2568 ดำเนินการเรียงที่ระดับความสูงจากน้ำทะเลปานกลาง + 2.40 ถึง +2.70 โดยกองระบบท่อระบายน้ำ สำนักการระบายน้ำ เริ่มดำเนินการวันที่ 15 สิงหาคม 2568 กำหนดแล้วเสร็จ 15 กันยายน 2568
นอกเหนือจากแผนประจำปี 2568 สนน. ยังได้วางแผนเรียงกระสอบทรายเพิ่มเติมเพื่อป้องกันน้ำทะเลหนุนในพื้นที่เขตบางขุนเทียน ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2569 อีก 335 เมตร โดยจะใช้กระสอบทราย 19,300 กระสอบ ในบริเวณสำคัญ ได้แก่ ถนนเลียบคลองพิทยาลงกรณ์, โรงเรียนทวีธาภิเษก, ซอยเทียนทะเล 29, ชุมชนบางกระดี่, ซอยเทียนทะเล 23, และถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล (ช่วงคลองหนึ่ง)
ขณะเดียวกัน สำนักการระบายน้ำยังได้ดำเนินมาตรการป้องกันน้ำท่วมและเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในด้านอื่นๆ ควบคู่กันไป โดยเฉพาะการปรับปรุงสถานีสูบน้ำคลองตาอูฐในเขตหลักสี่ ให้มีกำลังสูบเพิ่มขึ้นจาก 7 เป็น 10 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที, การติดตั้งบานประตูระบายน้ำ (Flap Gate) บริเวณถนนเลียบคลองบางเขน เขตจตุจักร และการเก็บขยะวัชพืชในคลองเปรมประชากรอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เขตบางซื่อจนถึงเขตจตุจักร เพื่อเปิดทางน้ำให้ไหลสะดวกยิ่งขึ้น
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ยังคงลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการจัดเรียงกระสอบทรายเพิ่มเติม ตรวจสอบระดับน้ำในคลอง และตรวจความแข็งแรงของแนวป้องกันต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกระบบสามารถรับมือสถานการณ์ฝนได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยมีศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร ซึ่งดำเนินงานมากว่า 35 ปี ทำหน้าที่ติดตามและแจ้งเตือนสถานการณ์แก่ประชาชนอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้อำนวยการกลาง เปิดเผยว่า ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท (กปภก) 0610/ 261 ถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 โดยระบุว่า ด้วยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) มีประกาศฉบับที่ 18/2568 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ประกาศ ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2568 ระบุว่า ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ และได้ประเมิน วิเคราะห์สภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ พบว่ามีพื้นที่บางส่วนเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ เนื่องจากระบายไม่ทัน และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำ จึงขอแจ้งเฝ้าระวังสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยาระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ระหว่างวันที่ 24 - 28 สิงหาคม 2568
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) จึงขอให้กรุงเทพมหานคร ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชนที่ประกอบกิจการในแม่น้ำ เช่น งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพ ร้านอาหาร เป็นต้น รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีแนวโน้มจะเกิดสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ ให้ถือปฏิบัติตามข้อสั่งการและมาตรการตามหนังสือกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ด่วนที่สุด ที่ มท (บกปภ) 0624/82 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2568
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำวานนี้ (24 ส.ค.68) ที่สถานีสูบน้ำพระโขนง ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการบริหารจัดการน้ำของกรุงเทพมหานคร ได้รับรายงานระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูงสุดเวลาประมาณ 20.00 น. สูงกว่าระดับน้ำในคลอง 50 ซม. คาดว่าจะขึ้นสูงอีกประมาณ 1 เมตร แต่ยังไม่ถึงจุดวิกฤต ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังเฝ้าระวังด้านต่างๆ เช่น เดินเครื่องสูบน้ำจากคลองลงแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาสูงกว่าระดับน้ำในคลอง ตลอดจนกำจัดสิ่งกีดขวาง ขยะ หน้าประตูระบายน้ำ ปัจจุบันที่สถานีสูบน้ำพระโขนงมีแผนทำเขื่อนและอุโมงค์ระบายน้ำให้เสร็จสมบูรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำจากคลองพระโขนง คลองประเวศฯ คลองตัน คลองแสนแสบ คลองลาดพร้าว ก่อนระบายออกแม่น้ำเจ้าพระยา