จากกรณีเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 24 ส.ค.68 ที่บริเวณด่านตรวจแอลกอฮอล์ บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ดารา-นางแบบลูกครึ่ง ไทย-เยอรมัน มารี เบิร์นเนอร์ อายุ 33 ปี ขับรถเก๋งพอร์ชสีเขียว ผ่านเข้าตรวจแฃะปฏิเสธการเป่าจากด่านตรวจเป่าแอลกอฮอล์ และไม่ยอมลงจากรถ เจ้าหน้าที่ต้องเคาะเรียกจึงยอมลงจากรถ และมีการโต้เถียงกันเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว มารี ไปที่ สน.วังทองหลาง โดยแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ และพร้อมประกันจำนวน 20,000 บาท พร้อมปล่อยตัวชั่วคราว และนัดส่งฟ้องศาลแขวงรัชดาในวันที่ 25 สิงหาคม ส่วนเพื่อนชายเจ้าหน้าที่ได้ แจ้งข้อกล่าวหา และนัดมาที่ศาลในวันเดียวกัน ตามที่ข่าวเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 25 ส.ค.68 ที่ สน.วังทองหลาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เปิดเผยว่าคุณมารี ติดต่อและเดินทางมาที่ สน. เพื่อมารายงานตัวต่อพนักงาน เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา แจ้งข้อหาเมาแล้วขับ เนื่องจากกฎหมายสันนิษฐานว่าห้ามปฏิเสธการเป่าวัดแอลกอฮอล์ จึงแจ้งข้อหาไปและคุณมาลี ใช้หลักทรัพย์เงินสด 20,000 บาทประกันตัว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนอนุญาตให้ประกันตัวแล้วก็นัดให้มารายงานตัววันนี้ต้องสอบปากคำ ถ้าเขารับสารภาพก็ต้องพิมพ์ส่งอัยการ
ส่วนเพื่อนชาย เบื้องต้นเจ้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา 4 ข้อหาด้วยกัน ในฐานความผิดขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน,วันนี้เราเรียกตัวฝ่ายชายเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาด้วย แต่เขาอาจจะมากับฝ่ายหญิงด้วยหรือเปล่านั้นเราไม่ทราบ ขั้นตอนของกฎหมายเรามีการแจ้งข้อหาให้กับฝ่ายชายทราบเรียบร้อยแล้ว การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีเจตนาเดียวก็คืออยากให้ผู้ใช้รถใช้ถนน เดินทางกลับบ้านโดยปลอดภัย ซึ่งหากผู้ที่ขับขี่เมาแล้วขับอาจจะไปเกิดอุบัติเหตุกับคนที่ไม่ได้เมาบนท้องถนน ซึ่งตรงนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการรณรงค์ในเรื่องเมาแล้วขับอยู่ตลอดอยู่แล้วอยากให้พวกเราช่วยๆกันในเรื่องนี้
พ.ต.อ.เจษฎา กล่าวอีกว่าการที่คุณมาลีปฏิเสธการเป่าแต่ว่าได้ยอมรับ หรือบอกนะครับว่าเขาไปดื่มมา ก่อนเขาบอกว่าดื่มมาก่อนที่จะเข้าด่านมาจุดตรวจแอลกอฮอล์ตามกฎหมาย ครับกฎหมายตั้งแต่ปี 2557 มีบัญญัติไว้อยู่ว่าผ่านผู้ขับขี่ปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สันนิษฐานว่าเมาแล้วขับ ส่วนฝ่ายตอนนี้เรายังไม่ได้คุยอะไรกับฝ่ายชายในตอนที่อาการปกติ เพราะว่าหน้าที่ของตำรวจเราก็คือดูแลรับใช้พี่น้องประชาชน และเราให้เกียรติกับประชาชนทุกคนอยู่แล้ว เพราะว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเราเจตนาเดียวจริงๆนะครับที่อยากให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพและปลอดภัยที่สุด
ส่วนมีการแอบอ้างนายตำรวจท่านหนึ่ง มองว่า เป็นอาการของคนเมาแล้วกล่าวอ้างไปเรื่อยซึ่งไม่ได้แต่ความอะไร นอกจากชื่อแมนแล้ว ก็ไม่ได้พูดถึงใครอีก อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ พนักงานสอบสวนก็นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานอัยการ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนจะมีการบำเพ็ญประโยชน์หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับลูกเป็นของศาล ซึ่งมีอัตราโทษปรับ 10,000 บาทถึง 20,000 บาทจำคุก 1 ปี