โค้งสุดท้ายคดีร้อน ศาลรัฐธรรมนูญตกเป็นเป้าโจมตี ก่อนการลงมติและแถลงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีของนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” ดูเหมือนว่า “กรรมการ” อย่างศาลรัฐธรรมนูญกำลังตกเป็นเป้าถูกโจมตีอย่างหนัก จากกรณีการ ตัดต่อคลิปเสียง ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการบิดเบือนถ้อยคำในขั้นตอนการไต่สวน เพื่อสร้างความเข้าใจผิดและชี้นำสังคมว่าศาลมีท่าทีเอนเอียง
คลิปเสียงที่ถูกตัดต่อนั้นใช้สรรพนามว่า “นั่งลงลูก” สื่อให้เห็นว่าตุลาการมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้ถูกร้อง และส่อว่าแพทองธารจะรอดจากคดี แต่ข้อเท็จจริงคือคลิปเสียงต้นฉบับระบุว่า “นั่งลงครับ” . การกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นความพยายามลดความน่าเชื่อถือของศาล ในขณะที่ความจริงกำลังจะถูกเปิดเผย
ขณะที่อีกด้านกลับมีกระแส “หวยการเมือง” 9 ต่อ 0 และ 7 ต่อ 2 ที่ “แพทองธาร” อาจไม่รอด ด้วยตลอดเส้นทางของคดีนี้ มีกระแสคาดเดาถึงผลการวินิจฉัยด้วยตัวเลข “หวยการเมือง” คือ 9 ต่อ 0 หรือ 7 ต่อ 2 ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาลอยๆ แต่มีที่มาจากมติของศาลรัฐธรรมนูญในขั้นตอนสำคัญก่อนหน้านี้
มติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ เป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 รับคำร้องของสมาชิกวุฒิสภาที่ยื่นขอให้วินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของแพทองธารสิ้นสุดลงหรือไม่ การลงมตินี้แสดงให้เห็นว่าตุลาการทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าคำร้องมีเหตุผลเพียงพอที่จะต้องพิจารณาคดีต่อ
มติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 ในวันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำขอให้สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี และมีมติ ด้วยเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 เห็นว่ามีเหตุอันควรสงสัยตามรัฐธรรมนูญ จึงมีคำสั่งให้แพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ส่วนตุลาการเสียงข้างน้อย 2 คน คือ นนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ และ อุดม สิทธิวิรัชธรรม เสนอให้ใช้มาตรการชั่วคราวอื่นแทนเพื่อป้องกันความเสียหาย
ตัวเลข 7 ต่อ 2 จึงเป็นที่มาของการคาดเดาถึงความเห็นที่แตกต่างกันภายในองค์คณะตุลาการ ซึ่งถูกนำมาเชื่อมโยงกับผลการวินิจฉัยขั้นสุดท้าย