วันที่ 25 ส.ค.68 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า...

อุ๊งอิ๊ง รอดคดีคลิปเสียง โชคร้ายของประเทศ

สำหรับคดีคลิปเสียงหลุดของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีการพูดคุยกับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภา ประเทศกัมพูชา จนเป็นประเด็นทำให้ส.ว.ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยในกรณีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้นัดฟังคำวินิจฉัย ในวันที่ 29 สิงหาคม 2568

ช่วงนี้จึงมีการวิพากษ์วิจารณ์ มีการวิเคราะห์ รวมไปถึงมีกระแสสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นกับสังคม ที่เห็นได้ชัดมีแกนนำในรัฐบาลชุดนี้ และแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาประสานเสียงว่า ถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นางสาวแพทองธารไปต่อในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็เป็นความโชคดีของประเทศ ซึ่งเป็นความเชื่อมั่นของคนในพรรคเพื่อไทย และมีการปั่นกระแส เรื่องพฤติกรรมของนางสาวแพทองธาร ไม่ได้กระทำผิด เป็นเจตนาดีที่จะทำเพื่อประเทศชาติ เป็นการหวังดีต่อประเทศชาติ

ถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐรัฐมนตรีต่อไป จะเป็นความโชคดีของประเทศ แต่ว่าในส่วนของประชาชน มีประชาชนจำนวนไม่น้อย ที่มีความรู้สึกว่า ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ก็เป็นความโชคร้ายของประเทศมากกว่า มีการกล่าวกันว่า ถ้านางสาวแพธทองธารรอด ประเทศจะไม่รอด แต่ถ้านางสาวแพทองธารไม่รอด ประเทศก็จะรอด ซึ่งเป็นความรู้สึกของประชาชนจริงๆ

ถ้าหากจะดูผลการสำรวจของโพลสำนักต่างๆ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ไม่มีความเชื่อมั่นและไม่มีความพึงพอใจในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของนางสาวแพทองธารเลย คะแนนนิยมของนางสาวแพทองธารอยู่ในระดับ 4 - 5% เท่านั้น ถือว่าต่ำที่สุดในบรรดาความนิยมนายกรัฐมนตรีในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ไม่ต้องไปเปรียบกับใคร เปรียบเทียบกับความนิยมของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีคะแนนนิยมตกต่ำในอดีต แต่เมื่อเทียบกันแล้ว เห็นได้ชัดว่า คะแนนนิยมของนางสาวแพทองธารตกต่ำกว่าคะแนนนิยมของนางสาวยิ่งลักษณ์มาก

เมื่อเป็นเช่นนี้ การที่แกนนำพรรคเพื่อไทยออกมาประโคมข่าวว่า ถ้านางสาวแพทองธารได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ก็เป็นความโชคดีของประเทศ แต่คนไทยทั้งประเทศมีความรู้สึกว่า เป็นความโชคร้ายของประเทศไทยและคนไทยทั้งประเทศมากกว่า