จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2568 สำนักข่าว Fresh News ของกัมพูชา รายงานว่า พลโท (หญิง) มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์ภายหลังข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า

"ฝ่ายกัมพูชายังคงยึดมั่นในการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมต่อเนื่องจากการประชุม GBC ซึ่งสะท้อนถึงเจตจำนงร่วมกันในการรักษาสันติภาพ ตัวอย่างที่ชัดเจน ได้แก่ การประชุม RBC ระหว่างภูมิภาคทหารที่ 3 ของกัมพูชากับกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราดของไทย เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2568 และการประชุมระหว่างภูมิภาคทหารที่ 5 ของกัมพูชากับกองทัพภาคที่ 1 ของไทย เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ซึ่งสะท้อนถึงการที่ทั้งสองฝ่ายให้ความเคารพและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายไทยเร่งรัดการส่งตัวทหารกัมพูชาทั้ง 18 นาย กลับประเทศ โดยกล่าวหาว่าทหารไทยได้จับกุมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย"

ต่อกรณีดังกล่าว พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า

"ฝ่ายไทยมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงพันธมิตรและองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันว่าฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยึดหลักการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบของกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ และกฎบัตรอาเซียน ซึ่งไทยได้ยึดถือและปฏิบัติมาโดยตลอดจนเป็นที่ประจักษ์ ก่อนเกิดเหตุความตึงเครียดที่ผ่านมา

แม้ว่าหลายฝ่ายยังคงมีความกังวลว่า การประชุมทวิภาคีในระดับต่างๆ อาจเป็นเพียงการตกลงกันในเอกสารเพื่อภาพลักษณ์ต่อสายตาต่างประเทศเท่านั้น โดยสิ่งที่ตกลงกันไว้อาจไม่เป็นผลในเชิงรูปธรรมอย่างแท้จริง เช่นเดียวกับในอดีตกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ที่กัมพูชาละเมิดบันทึกความเข้าใจ (MOU) นับร้อยครั้ง กระทั่งล่าสุด กัมพูชายังคงไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะในประเด็นทุ่นระเบิดและการบิดเบือนข่าวสารเพื่อคุกคามและทำร้ายฝ่ายไทย จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ถึงความกังวลต่อกรณีดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้ไปคงต้องติดตามดูว่าสิ่งที่ได้ตกลงกันไว้แล้วในหลักการเบื้องต้นนั้น จะสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้จริงหรือไม่ต่อไป

สำหรับกรณีเชลยศึก ยืนยันว่าการปฏิบัติของฝ่ายไทยเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย และสอดคล้องกับหลักมนุษยธรรมสากล อีกทั้งก่อนหน้านี้ คณะกรรมการกาชาดสากล (ICRC) ได้เข้าเยี่ยมเชลยศึกทหารกัมพูชา 18 นาย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีความน่ากังวลใด ๆ