วันที่ 24 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสิบเอก วรุธ ภิชาเศวตว์ รอง ผอ.โรงเรียนบ้านโจรก ต.ด่าน อ.กาบเชิง ที่โรงเรียนแห่งนี้ อยู่ในพื้นที่ ที่เคยมีกระสุนปืนใหญ่ตกใส่บ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้านโจรก เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 2 ราย บาดเจ็บ 2 ราย ในจำนวนนี้มีเด็ก 8 ขวบเสียชีวิต และเป็นเด็กนักเรียนของโรงเรียนบ้านโจรกแห่งนี้ด้วย

ได้มีการซ่อมแซมหลุมหลบภัยภายในโรงเรียนที่ทรุดโทรม และต้องการรับบริจาคยางรถยนต์และดิน เพื่อใช้ในการซ่อมแซมหลุมหลบภัยดังกล่าว พบว่าวันนี้ ได้มีผู้ใจบุญ จากโรงแป้งมันสำปะหลัง บริษัท CYY โกลบอล จำกัด ต.ด่าน อ.กาบเชิงฯที่ใจดี ได้นำรถแบ็คโฮและรถบรรทุกดินมาร่วมซ่อมแซมหลุมหลบภัยให้กับเด็กๆนักเรียนเพื่อความปลอดภัย หลังไม่มั่นใจในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่นับวันยิ่งตึงเครียด หลังทราบข่าวว่า ทหารกัมพูชามีการเสริมกำลังทหารนับหมื่นนายพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ เคลื่อนกำลังประชิดตลอดแนวชายแดน หลายจังหวัด แม้จะมีการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงระหว่างประเทศแล้วก็ตาม เพราะทหารกัมพูชามีการยั่วยุ รวมทั้งวางทุ่นระเบิด ละเมิดการหยุดยิงมาโดยตลอด และมีอกาสสูงที่จะเกิดการปะทะได้ทุกเมื่อ

สถานการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลให้ประชาชนไม่กล้าออกไปทำมาหากินปกติ บางส่วนอพยพผู้สูงอายุ คนป่วยคนพิการ และเด็กออกนอกพื้นที่บ้างแล้ว บางส่วนยังคงพากันเปิดร้านค้าขายเพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว แม้ยังคงวิตกกังวลในความไม่ปลอดภัยอยู่ก็ตามโดยเฉพาะที่บริเวณตลาดชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง ที่มีร้านค้าเปิดเป็นบางร้าน และส่วนใหญ่ปิดให้บริการ โดยเฉพาะด้านในของตลาดการค้าชายแดนช่องจอม หลังจากชาวกัมพูชาส่วนใหญ่กลับประเทศ ก็ถูกปิดสนิทไม่มีแม้แต่ร้านเดียวเปิด เป็นภาพที่น่าหดหู่กับเศรษฐกิจชายแดน ที่สงครามไม่รู้จะจบสิ้นวันใด

โดยบรรดาพ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน ต่างต้องการให้รัฐบาลเร่งยุติปัญหาอย่าให้ยืดเยื้อ เพราะชาวบ้านทำมาหากินไม่ได้และกำลังจะอดตาย รวมทั้งเงินค่าเยียวยาต่างๆที่ยังไม่ได้รับสักบาทเดียวจากรัฐบาลอีกด้วย