ในวันที่ 29 สิงหาคม 2568 ถูกจับตามองว่าเป็น "วันตัดสินทางการเมือง" ของไทย เมื่อศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว จากปมคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งถูกมองว่าอาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญและมีผลต่อความมั่นคงของประเทศ

-เกียร์ว่างการเมืองเกือบ 2 เดือน

ตลอดสองเดือนที่ “นายกฯ อิ๊งค์” ต้องหยุดทำหน้าที่ ประเทศไทยเสมือนขับเคลื่อนในโหมด “เกียร์ว่าง” แม้จะมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ขึ้นรักษาราชการแทน แต่ก็ไม่สามารถชดเชยบทบาทผู้นำทางการเมืองได้เต็มที่

- เสถียรภาพรัฐบาลสั่นคลอน

การที่พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ยิ่งตอกย้ำภาพ "รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ" ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและประชาชนเริ่มสั่นคลอน ขณะที่ภายในระบบราชการเองก็เกิดการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งใหญ่ โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย ซึ่งถูกตั้งคำถามว่าเป็นการ "ล้างบางสายสีน้ำเงิน" หรือไม่

- มุมมองนักวิชาการ : ปัญหาคืออนาคตผู้นำ

นายสติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์ว่า ปัญหาของการเมืองไทยไม่ใช่เพียงแค่ "เกียร์ว่าง" แต่คืออนาคตของผู้นำ ทั้งในเชิงอำนาจทางการเมืองและ "ผู้นำทางจิตวิญญาณ" ที่ยังคงโยงใยกับชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร"

เขามองว่า แม้ไม่มีนายกรัฐมนตรี ประเทศก็ยังสามารถเดินหน้าด้วยกลไกรัฐที่ถูกออกแบบไว้ แต่สิ่งที่นักการเมืองกังวลคือ "อำนาจและอนาคตของตนเอง" มากกว่าทิศทางของประเทศ ความไม่ชัดเจนนี้ทำให้การผลักดันเชิงนโยบายอ่อนแรง และประเทศดูเหมือนไร้ทิศทาง

- ความเสี่ยงเกิดสุญญากาศการเมือง

หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทันที ไทยจะต้องเข้าสู่กระบวนการเลือกนายกฯ คนใหม่ ซึ่งไม่ง่ายในสภาฯที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง หากไม่สามารถหาข้อยุติได้ อาจนำไปสู่ "การยุบสภา" และเลือกตั้งใหม่ สถานการณ์นี้จะยืดเยื้อและสร้างสุญญากาศทางการเมืองต่อไป

ในทางกลับกัน หากศาลวินิจฉัยให้นายกฯ แพทองธารกลับมาทำหน้าที่ต่อ แม้จะสร้างความชัดเจนขึ้น แต่ความท้าทายก็ยังรออยู่ ทั้งการฟื้นเสถียรภาพรัฐบาล การสร้างเอกภาพภายใน และการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจในภาวะโลกที่ผันผวน

- 29 สิงหาคม : วันตัดสินอนาคตการเมืองไทย

ทั้งหมดนี้ทำให้วันที่ 29 สิงหาคมไม่ใช่เพียงวันอ่านคำวินิจฉัย แต่เป็น "วันเดิมพันการเมืองไทย" ที่จะชี้ชะตาทั้งอนาคตของ แพทองธาร ชินวัตร และทิศทางประเทศ ว่าจะเดินหน้าต่อในรางที่มั่นคง หรือจะต้องกลับเข้าสู่วงจรความไม่แน่นอน และสุญญากาศทางการเมืองอีกครั้ง