วันที่ 23 ส.ค. 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมือง โดยแสดงความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า พรรคเพื่อไทยจะได้รับข่าวดีใน 2 คดีสำคัญที่เกี่ยวข้องกับผู้นำพรรค พร้อมยืนยันว่าพรรคไม่มีแผนสำรองหากผลคดีไม่เป็นไปตามคาด และไม่เชื่อว่าสถานการณ์จะนำไปสู่การยุบสภาหรือการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาล
นายประเสริฐกล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีมาตรา 112 ว่า การตัดสินของศาลฯ ถือเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนายทักษิณ และสร้างขวัญกำลังใจอย่างยิ่งให้กับสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคน เนื่องจากนายทักษิณเปรียบเสมือน “ผู้นำทางจิตวิญญาณ” ของพรรคตั้งแต่สมัยไทยรักไทย
สำหรับคดีคลิปเสียงหลุดของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติชี้ขาดในวันที่ 29 ส.ค.นี้ นายประเสริฐยืนยันว่า รัฐบาลและพรรคมีความมั่นใจว่า น.ส.แพทองธารจะสามารถชี้แจงต่อศาลได้อย่างสมเหตุสมผล และจะได้รับข่าวดีในที่สุด เนื่องจากเชื่อในเจตนาที่บริสุทธิ์ของนายกรัฐมนตรีที่มุ่งมั่นปกป้องผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ
เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ที่นายกรัฐมนตรีจะพ้นจากตำแหน่ง นายประเสริฐกล่าวว่า พรรคยังไม่มีแผนสำรองใดๆ เพราะมั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่าน.ส.แพทองธารจะลาออกจากตำแหน่งเพื่อยุติคดี และไม่เชื่อว่าเก้าอี้นายกรัฐมนตรีจะตกไปอยู่กับพลเ.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี และอดีตนายกฯ หรือนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากรัฐธรรมนูญมีกลไกกำหนดกระบวนการเลือกนายกฯที่อยู่ในบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว
ส่วนประเด็นสภาล่มบ่อยครั้งจนได้รับฉายา "สภาเป็นง่อย" นายประเสริฐชี้แจงว่า สาเหตุไม่ได้มาจากการที่ สส. หนีประชุม แต่เป็นเพราะ สส. ต้องแบ่งเวลาไปทำหน้าที่ในคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ด้วย ยืนยันว่าเมื่อถึงวาระสำคัญ เช่น การโหวตงบประมาณ พรรคร่วมรัฐบาลยังคงเหนียวแน่นและพร้อมเพรียงกันดีเสมอ