สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาด้าน อ.กาบเชิง และ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตึงเครียดหนัก หลังทหารกัมพูชาเสริมกำลังและอาวุธเข้าประชิดแนวชายแดนต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านหลายพื้นที่ไม่ไว้วางใจ เริ่มอพยพผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ป่วย ไปอาศัยตามวัดต่าง ๆ โดยเฉพาะที่วัดเทพสุรินทร์ มีผู้ลี้ภัยแล้วเกือบ 300 คน รวมถึงทารกวัย 14 วันและผู้ป่วยติดเตียง ขณะเดียวกันยังขาดแคลนของใช้จำเป็น เช่น ผ้าอ้อมเด็ก ผงซักฟอก และอาหาร
วันที่ 22 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียดมากยิ่งขึ้น เนื่องจากพบกองกำลังทหารกัมพูชา ได้มีการเสริมกำลังและอาวุธยุทโธปกรณ์ประชิดชายแดนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด พบทหารกัมพูชาเคลื่อนพลมาประชิดชายแดนด้าน อ.กาบเชิง และ อ.พนมดงรัก อย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เริ่มไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ชายแดน เริ่มมีการอพยพผู้สูงอายุ ผู้ป่วยและเด็กๆออกจากพื้นที่ไปอาศัยอยู่ตามวัดต่างๆที่ห่างไกลจากพื้นที่ชายแดน ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยเฉพาะวันนี้พบมีการโพสต์ในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับความผิดปกติของชายแดนในหลายพื้นที่ ก็ยิ่งทำให้ประชาชนไม่มั่นใจ บางคนเริ่มทยอยออกจากพื้นที่กันแล้ว อีกทั้งไม่เชื่อใจทหารกัมพูชา ที่อาจจะมีการยิงกระสุนปืนใหญ่เข้ามาก่อนได้ทุกเมื่อ หลังมีการเสริมกำลังเข้ามา อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่ยังคงเฝ้ารอคำสั่งจากผู้นำชุมชนอย่างใกล้ชิดต่อไป หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินก็พร้อมอพยพได้ทันที
ขณะที่วัดเทพสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ที่พบว่ามีผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ผู้พิการและเด็กๆจากพื้นที่ อ.กาบเชิง มาอาศัยพักพิงอยู่ภายในวัดแห่งนี้ เกือบ 300 คนแล้ว มีผู้ป่วยติดเตียง 4 ราย และเด็กแรกเกิดรวมอยู่ด้วย ทั้งนี้ยังต้องการรับบริจาคเครื่องอุปโภค=บริโภค ผงซักฟอก และแพมเพิร์สให้ผู้ป่วยและเด็กเล็กอีกด้วย
นายศิริวัฒน์ จันทร์ทวี ชาวบ้านสกลพัฒนา ต.ตะเคียน อ.กาบเชิง กล่าวว่า เมื่อเช้าหลานโทรมาจากบ้านบอว่าทหารเขมรขึ้นมาประชุดชายแดนด้าน องกาบเชิง ตนว่าจกลับบ้านวันนี้จึงยังไม่กลับ ขอดูถานการณ์ก่อน อยากให้สถานการณ์ปกติเร็วๆและอยากให้รัฐบาลช่วยดูแลศูนย์อพยพ และทางบ้าน เกี่ยวกับเงินเยียวยาด้วย
นายนครินทร์ สารพิษ อายุ 23 ปีชาวบ้านสกลพัฒนา ต.ตะเคียน อ.กาบเชิงฯที่อพยพมาพร้อมภรรยาเเละลูกอ่อน อายุ 14 วัน กล่าวว่า ตนและครอบครัวอพยพมาอยุ่ที่วัดได้ 7 วันแล้ว ลูกพึ่งคลอดออกมาได้ 14 วันด้วย ไม่มีรายได้ไปทำงานอะไรยังไม่ได้ จนกว่าสถานการณ์จะปกติ ไม่รู้จะกลับไปทำงานอะไรต่อ อยากให้รัฐบาลช่วยเยียวยาชาวบ้านในพื้นที่ที่กำลังเดือดร้อน อยากให้รัฐบาลและกองทัพแก้ปัญหาโดยเร็ว
พระครูศรีปริยัติสาทร เจ้าอาวาสวัดเทพสุรินทร์ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้อพยพมาอยู่ที่วัดประมาณ 264 คน ชาวบ้านเขาอพยพมากันเอง ทางการยังไม่ได้สั่ง เพราะเขายังไม่ไว้ใจในสถานการณ์ชายแดน เขาหวาดผวานอนไม่หลับ ซึ่งทางวัดยังต้องการข้าวสารอาหารสด อาหารแห้งต่างๆมาไว้ทำอาหารให้ผู้อพยพได้ทาน ก็มีคนบริจาคมาบ้าง ที่ต้องการเพิ่มเติมก็จะเป็นผงวักฟอกซักผ้าที่ผู้อพยพต้องการ รวมทั้งของใช้สำหรับผู้ป่วยและเด็ก เช่นแพมเพิร์ส ผู้ใจบุญก็สามารถบริจาคได้ที่วัด หรือโทรศัพท์สอบถามข้อมูลได้ที่ หมายเลข 0818795338
ผู้สื่อข่าวรายงานวว่า นอกจากนี้ยังมีผู้อพยพอีกกว่า 200 คนพักอาศัยอยู่ที่วัดศรีรัตนาราม บ.ตะตึงไถง (ตะ-ตึง-ถะ-ไง๋) ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ด้วยเช่นกัน