CIB ร่วม ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. รวบปลัด อบจ.มุกดาหาร คาห้องทำงาน คดีเรียกสินบน 7 แสนบาท แลกอนุมัติเบิกจ่ายเงินโครงการก่อสร้าง

วันที่ 22 ส.ค.68  กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ท.จิรภพ ภูริเศช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก, พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.,พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.3 บก.ปปป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของ นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ  เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.,นายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 4, นายจรงค์ เกราะเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ, นายนิรุท สุขพ่อค้า ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมุกดาหาร, นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและการข่าว 2 และเจ้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ภายใต้การอำนวยการของ นายภูมิวิศาล  เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ, พ.ต.ท.สิริพงษ์  ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการฯ รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่ร่วมกันสืบสวนจับกุมผู้ต้องหา ว่าที่ ร.อ.วัทธิกร (นามสมมุติ ) อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ 21/2568  ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2568 ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาว่า "เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบข่มขื่นใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้ หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น และ เป็นเจ้าพนักงาปฏิบัติละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ปฏิบัติละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต"ตามกฎหมาย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 มาตรา 157 

จากพฤติการณ์ สืบเนื่องจาก ผู้กล่าวหาซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างของเอกชน ได้ทำสัญญารับจ้างปรับปรุงถนนลาดยางผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตฯ จำนวน 1 โครงการ วงเงินงบประมาณ 9,780,000 บาท และโครงการเสริมผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตฯ จำนวน 6 โครงการ วงเงินงบประมาณ 2,993,000 บาท รวมทั้งสิ้น 7 โครงการ วงเงินงประมาณรวม 12,774,000 บาท กับทาง อบจ.มุกดาหาร โดยมีปลัด อบจ.มุกดาหาร ผู้ต้องหา เป็นผู้ลงนามว่าจ้าง ปรากฏตามสัญญา ต่อมาเมื่อผู้กล่าวหาทำงานเสร็จสิ้นแล้วตามสัญญาได้ส่งมอบงานและเบิกเงินค่าก่อสร้างแล้ว 2 โครงการ แต่เมื่อผู้กล่าวหาต้องการขอเบิกเงินค่าดำเนินงานตามโครงการเหลืออีก 5 โครงการ ผู้ต้องบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้เบิกเงินค่าจ้าง โดยแจ้งว่างานไม่เรียบร้อยตามสัญญาจ้าง และเมื่อผู้กล่าวหาได้เข้าไปพบ ผู้ต้องหา ผู้ต้องหาได้เขียนข้อความลงในแผ่นกระดาษให้แก่ผู้กล่าวหา โดยมีข้อความเรียกรับเงิน ร้อยละ 8-10 % ของวงเงินแต่ละโครงการ รวมเป็นเงินประมาณ 700,000 บาทเศษ เพื่อตอบแทนในการอนุมัติจ่ายเงินแทนการพูด ซึ่งความจริงแล้ว ผู้กล่าวหา ได้ทำงานครบถ้วนถูกต้องตรงตามสัญญาแล้ว และคณะกรรมการตรวจรับงานได้ ตรวจรับงานถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาเรียบร้อยแล้ว  แต่ผู้ต้องหาไม่ยินยอมให้เบิกเงินค่าดำเนินงานตามโครงการ ผู้กล่าวหาจึงต้องจำยอมมอบเงินให้แก่ผู้ต้องหา โดยก่อนนำเงินไปส่งมอบเงินผู้กล่าวหาได้เข้าร้องเรียนต่อ เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน

ต่อมาภายหลังการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ป.ช. พร้อมข้อมูลว่า ผู้กล่าวหาได้นำเงินไปมอบให้กับผู้ต้องหาที่ห้องทำงาน จำนวน 500,000  บาท โดยผู้ต้องหาได้เขียนข้อความลงใน แผ่นกระดาษแทนการพูด มีข้อความว่าให้นำเงินไปวางไว้ยังจุดตามที่ผู้ต้องหาสั่งการ ภายหลังเลิกงาน ผู้ต้องหา จึงเข้าไปหยิบเงินแล้วเดินทางกลับที่พัก หลังจากนั้น ผู้ต้องหา ได้โทรศัพท์ติดต่อ ทวงถามเงิน ส่วนที่เหลืออีก 200,000 บาท กับผู้กล่าวหาอีก ผู้กล่าวหาจึงได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อให้ดำเนินการ พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปปป. จึงรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 4 ออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย กระทั่งวันนี้ (22 สิงหาคม 2568) บก.ปปป.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.,ป.ป.ท. วางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหา ในเขตพื้นที่ จ.มุกดาหาร และนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป