หนุ่มรับจ้างถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้เปิดบัญชีม้าแลกค่าจ้าง 1,500 บาท แต่เมื่อไหวตัวทันรีบปิดบัญชี ทำให้กลุ่มคนร้ายโกรธแค้นตามมาทำร้ายร่างกายถึงตลาดสดเทศบาลหนองแค จนได้รับบาดเจ็บ มีพยานในเหตุการณ์เข้าช่วยเหลือและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

วันที่ 22 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายอาร์ต (ขอสงวนนามสกุล) ว่าได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้รับจ้างรายวันว่า พวกตนถูกหลอกให้ไปเปิดบัญชีม้า และเมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกจึงได้ไปปิดบัญชี กลับถูกพวกที่หลอกไปเปิดบัญชีตามกลับมาซ้อมจนอ่วม

ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณหลังตลาดสดเทศบาลหนองแค ต.หนองแค อ.หนองแค จ.สระบุรี โดยได้พบกับนายสุภา หรือต้น (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป เล่าว่า เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา พวกตน 5 คนได้ถูก นายแดง และนางติ๋ม 2 สามี ภรรยา ชักชวนให้ไปทำงาน โดยให้ค่าจ้างคนละ 1,500 บาท จากนั้นได้พาพวกตนไปที่ ธนาคารแห่งหนึ่ง ในห้างฟิวร์เจอร์ปาร์ครังสิต และพาไปเปิดบัญชีโดยหลอกว่าเมื่อทำงานได้เงินจะเข้าบัญชีให้ ซึงตอนเปิดบัญชีนายแดงได้นำซิมโทรศัพท์ใหม่ใส่ในโทรศัพท์ขอนายแดงเอง และให้ตนเองนำไปเปิดบัญชี เพื่อนำไปใช้ในการสแกนใบหน้า ซึ่งที่ไปทั้งหมด 5 คนสามารถเปิดบัญชีได้ 3 คน ส่วนอีก 2 คนติดแบล็คลิส ในเรื่องบัญชีม้ามาก่อนจึงไม่สามารถเปิดได้ และเมื่อเปิดบัญชีได้แล้วนายแดง ได้ยึดเอาสมุดบัญชี และบัตร เอทีเอ็ม ของพวกตนทั้ง 3 คนไปจากนั้นได้พาพวกตนกลับมาส่งที่ตลาดหนองแค โดยจ่ายให้พวกตนที่เปิดบัญชี คนละ 1,500 บาท โดยนายแดงยังกำชับพวกตนว่าไม่ให้นำเรื่องเปิดบัญชีไปเล่าให้ใครฟัง และเมื่อตนเองเกิดความสงสัยว่าที่ตนเองไปเปิดบัญชีต้องถูกหลอกให้ไปเปิดบัญชีม้าแน่ๆ ตนเองจึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองแค ในวันที่ 20 สิงหาคม และทำการปิดบัญชี

ซึ่งในขณะที่ทำการปิดบัญชีเจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่ามีเงินเข้าบัญชี มา 2 หมื่นกว่าบาทและได้ถูกกดออกไปคงเหลือในบัญชีอีก 9,140 บาททางธนาคารจึงได้เปิดออกมาเพื่อเก็บรักษาไว้คืนให้เจ้าทุกข์เมื่อมีการร้องเรียน จากนั้นเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ทางนายแดง และนางติ๋ม รู้ว่าบัญชีถูกปิดไม่สามารถเบิกเงินในบัญชีได้ จึงได้พากันขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน ทะเบียนกรุงเทพมหานคร เพื่อมาตามหาตนเอง และนายฉลวย (ผู้ร่วมเปิดบัญชีม้าอีกคน) แต่เนื่องจากนายฉลวย ไม่อยู่ นางติ๋ม จึงได้พาตนเองไปคุยกันบนรถกระบะ แต่ตนเองไม่ยอมขึ้นรถ นางติ๋มพยายามทวงถามเงินที่เหลือและกดออกมาเพื่อเอาคืน แต่ตนเองไม่ยอมคืนให้โดยบอกว่าจะเก็บเอาไว้คืนให้เจ้าทุกข์ จากนั้นนายแดง ได้เข้ามาตบที่ใบหน้าตนเอง และกระทืบที่บริเวณชายโครง จนตนเองล้มลง นางติ๋ม ยังบอกว่าตนเองอยากตายหรือไง มึงหาเรื่องตายแล้ว

ด้านนางสาวฤทัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า มีคนมาบอกว่าผู้หญิงคนนี้ที่พานายต้นไปเปิดบัญชี ตนเองจึงถามไปว่ามากับใครได้รับคำตอบว่ามากับคนชื่อแดง ตนเองจึงได้ไปดูว่าทำไมนายแดง จึงไม่รับโทรศัพท์ตนเองและหลบหนี (เนื่องจากว่านายแดง เคยยืมเงินตนเองไป) แต่เมื่อมาถึงพบว่านายแดง กำลังทำร้ายร่างกายนายต้น อยู่ จึงได้ร้องห้าม และนำโทรศัพท์มาถ่ายไว้ พร้อมกับโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งนางติ๋ม ยังหยิบโทรศัพท์มาถ่ายตนเองอีกด้วย และจากนั้นนายแดงก็ขับรถออกไปพร้อมกับนางติ๋ม ซึ่งถ้าตนเองไม่ออกมาดูคาดว่านายต้นน่าจะถูกกระทืบจนตายเป็นแน่

ส่วนนายฉลวย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี ผู้ที่เปิดบัญชีม้าอีกคน เล่าว่า ขณะที่ตนเองช่วยแม่ค้ายกของเก็บได้มีคนมาชวนไปทำงาน โดยได้เงินค่าจ้างด้วย ตนเองจึงได้ไปด้วย โดยคนที่ชวนได้พาตนเองไปที่ฟิวร์เจอร์ รังสิต จากนั้นได้พาตนเองไปเปิดบัญชี และให้เงินตนเองมา 1,500 บาท ซึ่งก่อนเปิดได้พาพวกตนไปที่ตลาดไทย และซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์ใหม่ และดำเนินการทำโทรศัพท์เปลี่ยนซิม ให้ตนเอง และนำโทรศัพท์ให้ตนเองไปที่ธนาคารเพื่อทำการเปิดบัญชี และเมื่อเปิดบัญชีเสร็จแล้วได้เอาโทรศัพท์มาสแกนใบหน้าตนเอง 3 ครั้ง จากนั้นผู้ที่พาตนเองไปเปิดบัญชีได้กดดูยอดเงินดู โดยได้ยินเขาคุยกันว่าเงินเข้าหรือยัง ตนเองยังได้ยินว่าเขาพูดว่าเงินเข้าแล้ว 3 แสน ส่วนสมุดบัญชี และบัตรเอทีเอ็ม ทางผู้พาไปเปิดบัญชีเอาไปหมด ซึ่งตนเองก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าตอนที่สแกนใบหน้าตนเองทำไมเงินเข้ามาเร็วจัง