คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เคาะวันเลือกตั้งซ่อมสส.เชียงราย เขต 7 ออกมาเรียบร้อยแล้ว โดยกำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 68 นี้เป็นวันหย่อนบัตร

การเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่เขต 7 จ.เชียงราย จำเป็นต้องมีขึ้นเมื่อ “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” ถูกศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง “รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1” รวมทั้งยังให้สิ้นสุดความเป็นสส.เขต 7 เชียงราย เนื่องจากทำความผิดตามมาตรา 144 ฐานแปรงบประมาณ 2568 และ งบประมาณ 2569 ลงพื้นที่ของตัวเอง

เมื่อสิ้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมา ได้ทำให้ พรรคเพื่อไทย ต้องเสียที่นั่ง “สส.เขต” 1 เก้าอี้ทันที  ทำให้วันนี้พรรคเพื่อไทย เหลือสส.ในสภาฯ จำนวน 139 คน

แน่นอนว่า ในส่วนนี้ ยังมีผู้ที่เป็นรัฐมนตรี แต่ยังไม่ยอมลาออกจาก “สส.ปาร์ตี้ลิสต์” จึงส่งผลกระทบต่อการโหวตในสภาฯ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าหวุดหวิด จวนเจียนสภาฯจะล่มมาหลายครั้ง พรรคเพื่อไทย ต้องลุ้นระทึกกันตลอดว่า “ฝ่ายค้าน” จะใช้แท็กติก เสนอให้ “นับองค์ประชุม” กันเมื่อใด

เมื่อเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ และยังอยู่ในภาวะที่เพื่อไทยขาดความแข็งแกร่ง ทั้งจากปัญหาการเมืองภายใน และภายนอกที่รุมเร้า ด้วยเหตุนี้  ศึกเลือกตั้งซ่อมสส.เขต 7 เชียงราย จึงมีความหมายต่อพรรคเพื่อไทยอย่างมาก

รอบนี้พรรคเพื่อไทย ส่ง “สง่า พรมเมือง” อดีต ส.อบจ.เชียงราย อ.เชียงแสน ลงรักษาเก้าอี้ เขต7 โดยจะต้องมาเจอกับ “สุทัศน์ ยาละ”  อดีตผู้สมัคร ส.อบจ.เชียงราย  อ.เวียงแก่น ผู้สมัครจากพรรคประชาชน

ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ไม่ส่ง “มิรันตี บัวแก้ว” ลง อ้างว่ามีปัญหาขัดข้องทางเทคนิค ทั้งที่ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า พรรคจะให้เธอสวมเสื้อพลังประชารัฐลงสู้ เพราะคะแนนจากการเลือกตั้งสส.เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา มิรันตี ทำแต้มได้มากกว่า 2หมื่นคะแนน

เท่ากับว่าศึกสนามเชียงรายรอบนี้ จะเป็นการวัดกันระหว่าง “เพื่อไทย” มุมแดง เจอกับ “พรรคประชาชน” มุมส้ม  แน่นอนว่า มุมส้ม ย่อมต้องอาศัยโอกาสที่ “พรรครัฐบาล”กำลังอยู่ในห้วง “เมาหมัด” ทั้งจากคดีความที่พันอยู่กับ นายกฯแพทองธาร ชินวัตร กับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ บวกกับปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

เมื่อรัฐบาลกำลังอยู่ในภาวะ “ความเชื่อมั่น” ถดถอย จึงอาจเป็นทางเลือกใหม่ที่ชาวเชียงราย ในเขต 7 อาจจะเปลี่ยนใจมาใช้บริการของ พรรคประชาชน  นอกจากนี้ มีข้อสังเกตที่น่าจับตาว่า เมื่อมิรันตี จากพรรคพลังประชารัฐ “บาย” ไม่ลงแข่ง แต่อย่าลืมว่าเธอเองเคยมีคะแนนสะสมเมื่อตอนเลือกตั้งสส.ในปี 2566

ดังนั้น “คะแนน” ในมือมิรันตี จะเทไปช่วยพรรคส้มได้หรือไม่ และจะมากพอที่จะทำให้ คนของพรรคส้ม มีลุ้น คว่ำ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแชมป์เก่าลงได้หรือไม่

สำหรับพรรคเพื่อไทยแล้ว การเลือกตั้งซ่อมสส.เชียงราย เขต 7 อาจไม่ใช่แค่การรักษาพื้นที่เดิม แต่ยังอาจกลายเป็นภาพสะท้อน “ความนิยม” ในฐานะพรรครัฐบาล ว่าคนเบื่อแล้วจริงหรือไม่ อีกด้วยต่างหาก !