วันที่ 22 ส.ค.2568 นายพายัพ ปั้นเกตุ อดีต สส.สิงห์บุรี พรรคเพื่อไทย ออกมาตอบโต้ นายเทพไท เสนพงษ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อย่างเผ็ดร้อน กรณีที่พยายามโจมตี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯและรมว.วัฒนธรรม ในคดีคลิปเสียงสนทนากับอดีตนายกฯกัมพูชา โดยระบุว่าเป็นการกระทำที่สุ่มเสี่ยงและชี้นำศาล คำพูดของนายเทพไทที่ว่า ‘ถ้าอุ๊งค์อิ๊งค์รอด ประเทศไม่รอด แต่ถ้าอุ๊งค์อิ๊งค์ไม่รอดประเทศรอด’ เป็นการสื่อสารเพื่อกดดันศาลรัฐธรรมนูญมากกว่าสื่อสารกับสังคม และเป็นการสร้างวาทกรรมที่เต็มไปด้วยอคติ ทั้งที่คดีกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
อดีต ส.ส.เพื่อไทย ระบุว่า สิ่งที่นายเทพไททำสะท้อนวิธีคิดแบบที่สังคมเรียกว่า "สลิ่ม" คือใช้ความเกลียดชังนำหน้าทุกอย่าง เพราะหากพิจารณาเจตนาของนายกฯ ในการเจรจากับนายฮุน เซน คือการหาทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ผู้นำประเทศที่มีปัญหามักจะทำกัน ส่วนที่ผิดปกติคือการแอบบันทึกเสียงแล้วนำมาเผยแพร่ แต่นายเทพไทกลับนำคลิปดังกล่าวมาใช้โจมตีเพื่อหวังโค่นล้มรัฐบาล
นายพายัพ ยังกล่าวถึงประวัติของนายเทพไทว่า "คนอย่างนายเทพไท ทำอะไรมาบ้าง คนในสังคมรู้ดี อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ก็มีหน้าที่แค่เป็นวอลเปเปอร์ และโทรโข่งให้กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่สั่งสลายการชุมนุมจนประชาชนเสียชีวิต ส่วนตัวนายเทพไทเองก็ถูกศาลพิพากษาจำคุกเพราะ ทุจริตเลือกตั้ง ไม่ใช่หรือ แล้วคนแบบนี้มีความชอบธรรมอะไรมาวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นในทางเสียหาย" พร้อมระบุว่าการกระทำของนายเทพไทไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ประเทศ และประชาชนเลย