วันที่ 22ส.ค.68 ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ - Dr.Samart Ratchapolsitte ระบุว่า...
ตะโกนลั่นชายแดน! ทั้งที่ยืนบนแผ่นดินไทย
ใครคือผู้รุกราน?
ชาวกัมพูชากลุ่มหนึ่งรวมตัวกันประท้วงที่ชายแดนบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว อ้างว่าทหารไทยนำลวดหนามไปกั้นรุกล้ำในดินแดนของเขา จนเขาไม่สามารถกลับเข้าบ้านได้
แต่ข้อเท็จจริงก็คือพื้นที่ดังกล่าวเป็น “ดินแดนไทย” มาโดยตลอด มีหลักเขต มีแผนที่ และมีประวัติศาสตร์การครอบครองอย่างชัดเจน อีกทั้ง พื้นที่ที่ตั้งรั้วนั้น อยู่ในเขตไทย 100% และการติดตั้งรั้วลวดหนามถือเป็นแนวป้องกันสำคัญ ทั้งเพื่อสกัดการลักลอบข้ามแดน และเพื่อความปลอดภัยของผู้คนตามแนวชายแดน
ที่สำคัญ กลุ่มคนเหล่านี้จำนวนไม่น้อยเคยลี้ภัยเข้ามาอาศัยในแผ่นดินไทยในยามเดือดร้อน แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายกลับไม่ยอมออกไป วันนี้กลับมายืนตะโกนใส่หน้าทหารไทยว่ารุกล้ำแผ่นดินเขมร
ถามหน่อยเถอะ... รุกล้ำยังไง ในเมื่อผืนแผ่นดินที่คุณยืนตะโกนอยู่ก็เป็นผืนแผ่นดินไทย?
นี่คือการ “เนรคุณ” ต่อแผ่นดินที่เคยช่วยเหลือพวกเขาอย่างแท้จริง
“หนองจานคือแผ่นดินไทย” ไม่ว่ากี่ปี ไม่ว่ากี่เหตุการณ์ ความจริงนี้ไม่เคยเปลี่ยน และจะไม่มีวันเปลี่ยน บ้านหนองจานตั้งอยู่ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว มีหลักเขต 46-47 เป็นพิกัดยืนยันอธิปไตยไทยมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ผ่านการสำรวจร่วมกับฝรั่งเศสและกัมพูชา
ในช่วงสงครามเขมรแดง คลื่นผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชาจำนวนมากอพยพเข้ามาในฝั่งไทย ไทยเปิดค่ายรับผู้ลี้ภัยในพื้นที่ชายแดนหลายแห่งในปี 2522 ให้ทั้งที่พักพิง อาหาร น้ำ และยาเพื่อความอยู่รอด ไทยช่วยให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขนานนับสิบปี แต่หลังสงครามสงบ บางส่วนกลับบ้านไป บางส่วนกลับตั้งถิ่นฐานถาวรรุกล้ำเข้ามาในดินแดนไทย
ด้วยเหตุนี้ การกล่าวหาว่าทหารไทยรุกล้ำจึงเป็นการบิดเบือนเพื่อสร้างกระแส
คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ ทำไมคนกลุ่มนี้จึงไม่รู้จักบุญคุณไทย ทั้งที่เคยลี้ภัยและได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดี?
ถ้าไม่รู้จักบุญคุณ ไม่เคารพประวัติศาสตร์ ไม่เคารพความจริง แล้วใครกันแน่คือผู้รุกราน?