วันที่ 16 ส.ค.68 นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบุว่า...
การต่อต้าน mRNA โควิดวัคซีน มีผลกระทบต่อการให้วัคซีนพื้นฐาน
โควิดวัคซีนเป็นวัคซีนใหม่ นำมาใช้ในภาวะฉุกเฉิน ในสถานการณ์ การระบาดอย่างรุนแรง ของโรคโควิดในระยะแรก ที่มีอัตราการสูญเสียชีวิตสูง ทั้งที่ในระยะแรกผมพยายามศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีน และอาการข้างเคียง ตั้งแต่วัคซีนโควิด 19เชื้อตาย (Sinovac) มีประสิทธิภาพภูมิต้านทานเทียบเท่ากับการติดเชื้อในธรรมชาติ มีความปลอดภัย ก็มีการต่อต้านบูลลี่อย่างมาก เรียกร้อง mRNA มาเป็นวัคซีนหลักกันมากมาย หลังจากที่ ความรุนแรงของโรคโควิด 19 ลดลง และประเทศเราก็ได้ประกาศเปลี่ยนจากโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงมาเป็นโรคประจำฤดูกาล ก็ไม่ได้มีการใช้วัคซีน mRNA ดังกล่าว ผมเองก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่การต่อต้านวัคซีน mRNA อย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบัน มีผลกระทบทำให้การยอมรับ พาบุตรหลานไปฉีดวัคซีนพื้นฐาน เช่น คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ตับอักเสบบี โปลีโอ หัด มีอัตราการครอบคลุมลดน้อยลงอย่างมาก ทั้งที่วัคซีนดังกล่าวใช้มามากกว่า 50 ปี และยืนยันความปลอดภัย รวมทั้งมีประสิทธิภาพในการป้องกันและลดอัตราการเสียชีวิตของเด็กได้สูงมาก ยกตัวอย่างเช่นโรคหัด เราสามารถหยุดยั้งการระบาดของโรคหัดได้
ในปัจจุบันอัตราครอบคลุมการให้วัคซีนพื้นฐาน ในประเทศไทยลดลงอย่างมาก จึงอยากให้ผู้ปกครองทุกท่านตระหนักถึงวัคซีนพื้นฐาน ที่เราใช้มานาน มีความปลอดภัยสูง และประสิทธิภาพป้องกันโรคได้เป็นอย่างดี อยู่ในภาพบังคับที่เด็กทุกคนควรจะได้รับ ให้พาบุตรหลานของท่านไปรับวัคซีนตามกำหนด เพื่อป้องกันการระบาดของโรคดังกล่าว ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต และสร้างความสูญเสียให้กับประชากรไทยได้
เราอยากเห็นตัวเลขอัตราครอบคลุมการให้วัคซีนพื้นฐานกลับเข้าสู่ภาวะปกติก่อนโควิด 19 โดยเร็ว