“กองกำลังบูรพา”พบกล่องพัสดุต้องสงสัย ภายในมีซิมการ์ดโทรศัพท์กว่า 300 หมายเลข ในพื้นที่ชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เร่งส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนขยายผล ด้าน “รัฐบาล”เตือน “ปชช.” ระวังคนร้ายเปิดบัญชีหลอกรับเงินบริจาคช่วยทหารชายแดน” เสี่ยงสูญเงิน – ข้อมูลส่วนบุคคล ระวังเผยแพร่ข้อมูลเท็จ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ “กมธ.มั่นคงฯ”เชิญ “รัฐบาล-กองทัพ”หารือแนวทางใช้ ICC สร้างสันติภาพระยะยาว

เมื่อวันที่ 21 ส.ค.68 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (Anti-Fake News Center : AFNC) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบพบข่าวที่เกี่ยวข้องประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาเป็นจำนวนมาก จากสถิติตั้งแต่วันที่ 1 - 15 สิงหาคม 2568 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมฯ ได้ทำการคัดกรองจำนวนข้อความทั้งหมด 2,133,333 ข้อความ โดยมีจำนวนข้อความที่เข้าเกณฑ์การตรวจสอบ 222,679 ข้อความ ทั้งนี้ มีเรื่องที่ส่งตรวจสอบ จำนวน 459 เรื่อง ได้รับการตรวจสอบแล้ว จำนวนทั้งหมด 447 เรื่อง โดยสามารถแยกเป็นเรื่องนโยบายรัฐบาล และความมั่นคงของประเทศ 129 เรื่อง ได้แก่ (1) ข่าวปลอม จำนวน 29 เรื่อง (2) ข่าวจริง จำนวน 85 เรื่อง (3) ข่าวบิดเบือน จำนวน 15 เรื่อง (4) ข้อมูลไม่เพียงพอ จำนวน 0 เรื่อง

“ปัจจุบันมีการเผยแพร่ข่าวปลอม และข้อมูลบิดเบือนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงมากถึง 44 เรื่อง และพบมิจฉาชีพฉวยโอกาสในการเผยแพร่ข่าวปลอมแอบอ้างเป็นกองทัพหรือหน่วยงานทหารขอรับการบริจาคเงิน และสิ่งของเพื่อนำไปให้ความช่วยเหลือแก่หน่วยทหารในพื้นที่ชายแดนได้  ขอให้ประชาชนตรวจสอบที่มาของแหล่งข่าว โดยเลือกเชื่อ – แชร์ข่าว และข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เป็นทางการเท่านั้น” นายอนุกูล ระบุ

นายอนุกูล ย้ำเตือนประชาชนไม่ควรสแกน QR Code หรือดาวน์โหลดลิงก์ต่างๆ ที่ต้องสงสัย หรือยังไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจน เพราะอาจเป็นการติดตั้งแอปฯ ดูดเงิน และข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ตั้งใจ รวมทั้งหากนำข้อมูลไปเผยแพร่โดยไม่มีการตรวจสอบ อาจเป็นการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากประชาชน พบข่าวน่าสงสัย ข้อมูลบิดเบือน สามารถแจ้งเบาะแส และตรวจสอบข่าวปลอมได้ที่ โทรสายด่วน 1111 ต่อ 87 (24 ชม.) หรือที่ เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com

ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน เป็นประธาน มีวาระการประชุมเรื่องติดตามความคืบหน้า การคลี่คลายความขัดแย้งตามแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา โดยเชิญ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พล.ต.ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 และนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศมาเข้าให้ข้อมูล

นายรังสิมันต์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ว่าเรื่องชายแดนไทย - กัมพูชา ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมยอมรับว่าสถานการณ์อาจดูนิ่งขึ้น แต่ยังมีปัญหาอยู่ และยังมีการปะทะคารมในบรรยากาศที่ตึงเครียด ระหว่างไทย - กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี และมีข้อมูลว่าช่องอานม้าเป็นพื้นที่ที่มีความล้มเหลวในการบริหารจัดการชายแดนมานาน เป็นผลให้ช่องอานม้ายังคงมีชุมชนชาวกัมพูชามาตั้งอยู่เต็มพื้นที่ โดยบรรยากาศเริ่มเข้มข้นขึ้น จึงต้องมีแนวทางในการพูดคุยว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป อาจรวมไปถึงพื้นที่อื่น ๆ ที่มีการรุกล้ำผ่านการสร้างกาสิโน และอาจมีการรุกล้ำพื้นที่อื่นๆ เข้ามาได้เรื่อยๆ หากไม่มีการเตรียมการ

ทั้งนี้ จะต้องมีการพูดคุยกันในที่ประชุมโดยหยิบยกเรื่องดังกล่าวมาหารือต่อพล.อ.ณัฐพล เช่นเดียวกัน และอาจได้พูดคุยกันในแง่ของการทูตการต่างประเทศว่าจะมีแนวทางต่อไปอย่างไร ต้องไม่ลืมว่าสุดท้ายเรื่องนี้ก็ต้องจบลงที่การเจรจา

ส่วนประเด็นที่มีการพูดถึงใช้กลไกศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) นายรังสิมันต์ กล่าวว่า จะมีการหารือเรื่องนี้เช่นเดียวกันว่าจะเป็นไปได้อย่างไร เราเคยหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยแล้วแต่ได้รับการตอบรับที่น้อยอยู่ และเรื่องนี้ยังไม่มีการขยับแต่อย่างใดซึ่งก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว

เมื่อถามว่า การเชิญพล.อ.ณัฐพล มาร่วมประชุมในวันนี้ต้องการให้ได้คำตอบแบบใด กรณีชายแดนไทยกัมพูชา นายรังสิมันต์ ระบุว่า ตนคิดว่าเรื่องหลักเป็นการหาแนวทางว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร ตอนนี้ทุกฝ่ายเห็นว่ามีความตึงเครียดบริเวณชายแดน ชาวบ้านบางส่วนที่เป็นกังวลก็กลับไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงก็มีประมาณ 500 คน ขณะที่ภาคธุรกิจก็ไม่มีความมั่นใจ ดังนั้นต้องหาความชัดเจนจากเรื่องนี้ได้แล้วว่าจะมีแนวทางแก้ไขอย่างไร

"เราก็อยากจะฟังรัฐมนตรีช่วยเช่นกัน กลายเป็นว่าเรื่องนี้ยังคงยื้อกันไปมา และถูกแช่แข็งไว้อย่างนั้นโดยไม่รู้จะไปอย่างไรต่อ ผมคิดว่าก็ไม่ส่งผลดีต่อฝ่ายเราเช่นกัน ส่วนตัวผมต้องพูดคุยกับรัฐมนตรีและตัวแทนจากรัฐบาลว่ากลไกการใช้ ICC จะเป็นการสร้างสันติภาพระยะยาวตามแนวชายแดนและให้ทุกฝ่ายกลับเข้าสู่การเจรจาเพื่อสันติภาพต่อไป" นายรังสิมันต์ กล่าว

วันเดียวกัน กองทัพบก โดยกองกำลังบูรพา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 กองร้อยทหารพรานที่ 1304 ชุดเฉพาะกิจอรัญประเทศ ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าพบกล่องพัสดุต้องสงสัยถูกนำไปวางไว้ในไร่อ้อยของชาวบ้าน บริเวณบ้านหนองเอี่ยน ตำบลท่าข้าม อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จึงได้จัดกำลังเข้าตรวจสอบ

จากการตรวจสอบพบพัสดุจำนวนมาก ประกอบด้วยกล่องกระดาษ 3 กล่อง และกระสอบ 4 กระสอบ เมื่อนำมาตรวจสอบที่หน่วย พบว่าเป็นซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือที่ยังไม่ได้เปิดใช้งาน จำนวน 394 หมายเลข

ทั้งนี้ กองกำลังบูรพาได้ส่งมอบของกลางทั้งหมดให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรคลองลึก เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนและขยายผลหาผู้เกี่ยวข้องตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป

การปฏิบัติในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ซึ่งกองทัพบกได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเข้มงวด เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน