ที่สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 21 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้รับมอบสิ่งของสนับสนุนให้กับทหารปฏิบัติหน้าที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นมี หลวงปู่รอด ฐิตธัมโม วัดเนินร่มโพธิ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้นำพระนางพญาจำนวน 2 โถ มามอบให้กับแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา

โดยภายหลังจากรับมอบสิ่งของ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวขอบคุณผู้นำสิ่งของมามอบให้ พร้อมกล่าวกับผู้ที่มามอบสิ่งของตอนหนึ่งว่า ตนจะแต่งกายชุดเครื่องแบบสนามตลอด เพราะผมไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ตนอยู่ในสนามก็มีค่าเท่ากับทหารคนหนึ่ง ตนไม่ชอบแต่งเครื่องแบบอื่น ขอให้ทุกคนสบายใจได้ กำลังพลทุกคนมีความพร้อม เพราะมันไว้ใจอะไรไม่ได้จริงๆ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะตน ทุกคนก็คงคิดเหมือนกัน พระพุทธเจ้าบอกว่า ธรรมะที่ประเสริฐก็คือการไม่คบคนพาล ถ้าคบคนพาลชีวิตก็จะไม่มีความสุข ประเทศที่อยู่ข้างเคียงก็เหมือนกัน ฝากทุกคนให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทหารทุกคนมีกำลังใจดี และพร้อมจะปฏิบัติหน้าที่ทุกรูปแบบ

พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงสถานการณ์ไทย-กัมพูชาว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันอธิปไตยของชาติอย่างเต็มที่ โดยแนวรั้วที่มีอยู่เป็นเพียงการป้องกันการรุกล้ำของกำลังทหารฝ่ายตรงข้าม ไม่ได้หมายความว่าเป็นเส้นเขตแดนถาวร การสร้างแนวรั้วเพิ่มเติมจำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจตรงกันทั้งสองฝ่าย ส่วนกรณีข่าวลือว่ามีการรื้อถอนแนวรั้วที่ช่องอานม้า ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ไม่มีการรื้อถอนแต่อย่างใด และไทยยังคงยึดมั่นในหลักการปกป้องพื้นที่อธิปไตยตามเดิม

ในส่วนการประชุม RBC สมัยวิสามัญนั้น มีการเลื่อนนัดหมายเป็นวันที่ 27 สิงหาคมนี้ เพื่อหาทางออกร่วมกัน แม้จะมองว่าการประชุมระดับแม่ทัพอาจไม่ค่อยมีผลชัดเจนนัก แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการหารือ อย่างไรก็ตามตนยอมรับว่า ไม่เคยไว้ใจกัมพูชา และหากมีการยั่วยุเกินกว่าเหตุ ไทยก็มีสิทธิ์ตอบโต้ตามสมควรแก่เหตุเช่นกัน ส่วนการเสริมกำลังของกัมพูชาในพื้นที่ชายแดนนั้น เป็นการดำเนินการปกติของทหาร เพื่อทดแทนกองกำลังที่สูญเสียไป แต่กองทัพไทยก็เตรียมความพร้อมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีเสียงระเบิดที่เกิดขึ้นในฝั่งกัมพูชา ใกล้กับปราสาทตาควายนั้น เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมาจากกับระเบิดที่ฝ่ายกัมพูชาวางเอาไว้ แล้วเกิดเหยียบพลาดเอง เพราะวางเอาไว้เยอะ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฝ่ายไทย ส่วนเรื่องที่มีมวลชนเดินขบวนชุมนุมไม่เอา MOU 43-44 นั้น ถือเป็นเรื่องของรัฐบาล และมวลชนที่จะพิจารณา แต่กองทัพภาคที่ 2 ยึดถือการปฏิบัติจากแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งเป็นมาตราส่วนที่ละเอียดที่สุด เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติต่อไป

แม่ทัพภาคที่ 2 ยังได้กล่าวถึงกรณีที่จะเกษียณอายุราชการว่า ตนยืนยันว่าจะเกษียณอายุราชการตามกำหนด และหลังเกษียณจะขอทำหน้าที่เป็นพลเมืองดีของชาติ หากกองทัพยังต้องการคำปรึกษาหรือให้ช่วยงานก็พร้อมให้ความร่วมมือตามที่สามารถทำได้ โดยย้ำว่าตนไม่เคยรู้สึกถูกกดดันในการทำงาน มีแต่ความสุขที่ได้ทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติอย่างเต็มกำลัง