“สุริยะ” เปิดผลเบิกจ่ายงบลงทุนปี 68 แล้วกว่า 1.27 แสนล้านบาท ด้านมอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน – นครราชสีมา งานโยธาคืบหน้า 98.08 % พร้อมเปิดวิ่งตลอดเส้นปี 69 - เผยไทยเตรียมพร้อมรับการตรวจประเมินด้านการบินของ ICAO สร้างความเชื่อมั่นในระดับนานาชาติ

วันที่ 20 สิงหาคม 2568 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้ได้ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามผลการดำเนินงานโครงการสำคัญ ตามนโยบายฯ ครั้งที่ 3/2568 โดยได้ติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2568 มีผลการเบิกจ่ายสะสม 127,629.81 ล้านบาท คิดเป็น 60.14% (ณ สิ้นเดือน กรกฎาคม 2568) นอกจากนี้ ได้ติดตามความคืบหน้าโครงการมอเตอร์เวย์ M6 สายบางปะอิน – นครราชสีมา โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางจิระ รวมทั้งหารือแผนการจัดการจราจรระหว่างการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - ศูนย์วัฒนธรรมฯ และการเตรียมความพร้อมรับการตรวจประเมินประสิทธิภาพการกำกับดูแลการบินพลเรือนจาก ICAO 

นายสุริยะ กล่าวว่า ภาพรวมการเบิกจ่ายเงินกันเหลื่อมปี 2567 วงเงิน 47,373.50 ล้านบาท มีผลการเบิกจ่ายสะสมรวม 43,161.39 ล้านบาท คิดเป็น 91.11% ขณะที่งบรายจ่ายลงทุนปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 กระทรวงฯ ได้รับจัดสรรงบประมาณ 212,213.68 ล้านบาท มีผลการเบิกจ่าย 127,629.81 ล้านบาท คิดเป็น 60.14% อย่างไรก็ตาม ได้เร่งรัดทุกหน่วยงานติดตามและตรวจสอบทุกการดำเนินงานในทุกโครงการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การเบิกจ่ายเป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล และช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของประเทศ ด้านงบลงทุนปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงฯ วงเงิน 101,676.55 ล้านบาท มีผลการเบิกจ่ายสะสม 81,351.16 ล้านบาท คิดเป็น 80.01% ทั้งนี้ มีแผนเบิกจ่ายได้ 100% ในเดือนกันยายน 2568 นอกจากนี้ กระทรวงฯ มีแผนลงนามในโครงการสำคัญเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 5,137 รายการ วงเงิน 47,395.43 ล้านบาท สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 กระทรวงฯ ได้รับการจัดสรรงบประมาณ วงเงิน 265,406.77 ล้านบาท แบ่งเป็น ส่วนราชการ 9 หน่วยงาน วงเงิน 199,955.92 ล้านบาท รัฐวิสาหกิจ 5 หน่วยงาน วงเงิน 65,450.84 ล้านบาท ซึ่งได้รับเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงิน 20,829.80 ล้านบาท คิดเป็น 8.52%

สำหรับโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง M6 สายบางปะอิน - นครราชสีมา ซึ่งมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องทั้งงานโยธาและงานระบบ โดยงานโยธา 98.08% ก่อสร้างแล้วเสร็จ 33 สัญญา อยู่ระหว่างก่อสร้าง 7 สัญญา ได้แก่ บางปะอิน - หินกอง (ตอน 1, 4 และ 5), หินกอง - แก่งคอย - ปากช่อง (ตอน 18, 19, 21 และ 23) ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งรัดก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปี 2569 ด้านงานระบบ มีความก้าวหน้า 77.75% คาดว่าแล้วเสร็จภายในปี 2569 สำหรับงาน Rest Area จำนวน 15 แห่ง ปัจจุบันอยู่ระหว่างคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน โดยมีแผนเริ่มก่อสร้างปลายปี 2569 และเปิดให้บริการเต็มรูปแบบปี 2571 ขณะที่โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง M82 สายบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว ได้เร่งรัดก่อสร้างช่วงเอกชัย – บ้านแพ้ว เพื่อเปิดทดลองให้บริการได้ภายในสิ้นปี 2568


ด้านความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ งานเวนคืนสัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา - คลองขนานจิตร และสัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเร่งรัดดำเนินการในส่วนของการปรับแบบสัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนาดจิตร - ชุมทางถนนจิระ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เตรียมเสนอรายงานขออนุมัติดำเนินโครงการต่อคณะกรรมการบริหารจัดการของ รฟท. คณะอนุกรรมการกลั่นกรองของ รฟท. ในเดือนกันยายน 2568 และเสนอรายงานขออนุมติดำเนินโครงการต่อคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย (คกร.) และจัดทำรายงานขออนุมัติดำเนินโครงการต่อกระทรวงฯ ในเดือนตุลาคม 2568

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้หารือแผนการจัดการจราจรในระหว่างการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม  ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมฯ ซึ่งแนวส้นทางที่มีการก่อสร้างบนถนนสายต่าง ๆ เช่น  ถนนราชดำเนิน ถนนหลานหลวง ถนนจรัญสนิทวงศ์  ถนนราชปรารภ ถนนเพชรบุรี ถนนวิภาวดีรังสิต อาจทำให้ผู้ใช้เส้นทางไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ศึกษา/วิเคราะห์ ปริมาณจราจรบริเวณพื้นที่ก่อสร้างและจัดทำรูปแบบการปิดเบี่ยงจราจรระหว่างก่อสร้างที่เหมาะสม รวมทั้งประสานงานรับความเห็นจากส่วนงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดและบรรเทาผลกระทบในระหว่างการก่อสร้าง โดยได้มีการประชาสัมพันธ์การปิดเบี่ยงจราจรล่วงหน้า ติดตั้งป้ายแนะนำเส้นทางและเส้นทางหลีกเลี่ยงพื้นที่ก่อสร้างให้ประชาชนทราบ สำหรับแผนการดำเนินการบริเวณสะพานข้ามแยกประตูน้ำ จะเริ่มดำเนินการในเดือนมีนาคม 2569 คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2569

สำหรับการเตรียมความพร้อมรับการตรวจประเมินด้านการกำกับดูแลความปลอดภัยในโครงการตรวจสอบการกำกับดูแลความปลอดภัยสากล (Universal Safety Oversight Audit Programme - Continuous Monitoring Approach: USOAP CMA) จากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization (ICAO) ที่จะมีขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เตรียมพร้อมทุกขั้นตอนเพื่อเข้ารับการตรวจประเมินจาก ICAO ซึ่งการตรวจประเมินมีความสำคัญมากเนื่องจากจะเป็นการยืนยันมาตรฐานด้านการบินของประเทศไทย ที่จะสร้างความเชื่อมั่นต่ออุตสาหกรรมการบินของประเทศไทยในระดับนานาชาติ เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาค