เมื่อวันที่ 19 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ฝนตกต่อเนื่องในหลายจังหวัดภาคเหนือ รวมถึงการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำน่านและลำน้ำสาขามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น สำนักงานชลประทานที่ 3 และ หน่วยงานในพื้นที่ ได้เร่งติดตามสถานการณ์จริง พร้อมดำเนินมาตรการบริหารจัดการน้ำและประชาสัมพันธ์เชิงรุก
ทั้งนี้ นายชวลิต สุราราช ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สชป.3 ลงพื้นที่ เขื่อนนเรศวร จ.พิษณุโลก ติดตามสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำน่าน พร้อมกำชับให้ทุกโครงการเร่งดำเนินมาตรการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอย่างใกล้ชิด
“ขอให้ประชาชนริมฝั่งแม่น้ำน่าน ติดตามข้อมูลข่าวสารจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือในกรณีระดับน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว” นายชวลิต กล่าว
ส่วนพื้นที่ปฏิบัติงานในจังหวัดอุตรดิตถ์ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาผาจุก นายณฐพล ชุ่มสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโครงการฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ เขื่อนทดน้ำผาจุก ซึ่งทำหน้าที่หน่วงน้ำแม่น้ำน่าน ปัจจุบันระบายน้ำเฉลี่ย 600 ลบ.ม./วินาที พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านด้านท้ายเขื่อนเตรียมความพร้อมล่วงหน้า
พื้นที่ปฏิบัติงานจังหวัดพิษณุโลก โครงการชลประทานพิษณุโลก เฝ้าระวังสถานการณ์แม่น้ำน่านที่ สถานี N.5A (สะพานเอกาทศรถ) ระดับน้ำล่าสุดอยู่ที่ 7.78 เมตร (ต่ำกว่าตลิ่ง 2.59 เมตร) แนวโน้มยังเพิ่มขึ้น จากการผันน้ำจากแม่น้ำยมปรับแผนบริหารน้ำแบบวันต่อวัน ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนประชาชนต่อเนื่อง
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแควน้อยบำรุงแดน จัดทำ ป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งเตือน ณ เขื่อนทดน้ำพญาแมน อ.วัดโบสถ์สร้างการรับรู้แก่ผู้ใช้ทางและชุมชนบริเวณลุ่มน้ำแควน้อย โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลายชุมพล ลงพื้นที่ คลองระบายน้ำ DR.15.8 ต.งิ้วงาม อ.เมืองพิษณุโลก ตรวจสอบระดับน้ำ พร้อมให้คำแนะนำแก่ประชาชนในพื้นที่พื้นที่ปฏิบัติงานจังหวัดพิจิตร
ด้านนายฉัตรชัย ทองปอนด์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิจิตร พร้อมเจ้าหน้าที่ในสังกัด ฯ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์แม่น้ำน่าน ดำเนินการติดตั้ง ธงสัญลักษณ์แจ้งเตือน บริเวณสถานีวัดน้ำ N.7A ต.ปากทาง อ.เมืองพิจิตร ระดับน้ำปัจจุบัน: 8.81 เมตร (ต่ำกว่าจุดวิกฤติ 1.06 เมตร)ประชาสัมพันธ์เตือนภัยให้ประชาชนริมฝั่งแม่น้ำติดตามข่าวสารใกล้ชิด ดำเนินการภายใต้การบูรณาการร่วมกัน โดยสำนักงานชลประทานที่ 3 ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)และหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่เพื่อปรับแผนบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริงอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น จึงอยากขอความร่วมมือประชาชนริมแม่น้ำน่านและลำน้ำสาขา โดยเฉพาะผู้เลี้ยงปลาในกระชัง / ผู้ประกอบกิจกรรมในแม่น้ำ ติดตามข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด เตรียมพร้อมรับมือในกรณีระดับน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว สายด่วนกรมชลประทาน 1460 (ตลอด 24 ชั่วโมง)