วันที่ 19 สิงหาคม 2568 ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำโขงเหนือ ครั้งที่ 10/2568 ณ ห้องประชุมอูหลง ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย โดยคณะทำงานได้รายงานสถานการณ์ฝนและการคาดการณ์ ภาพรวมสถานการณ์น้ำ การติดตามพื้นที่น้ำท่วมและพื้นที่ได้รับผลกระทบ และแนวทางการแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งความก้าวหน้าโครงการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำรวก และการเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. เปิดเผยว่า นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงเหนือ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาจังหวัดเชียงรายก็มีปัญหาในเรื่องของอุทกภัย ปัจจุบันนี้ก็เข้าสู่สถานการณ์ในสถานการณ์ปกติแล้ว อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคมเป็นต้นไป มีแนวโน้มที่ปริมาณฝนในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงเหนือจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และช่วงปลายเดือนสิงหาคม อาจมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงยกระดับเป็นพายุโซนร้อนได้ โดยการลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อหารือเตรียมการร่วมกันในพื้นที่ของลุ่มน้ำโขงเหนือทั้งหมด อีกทั้งลงพื้นที่ อ.แม่สายด้วย ว่ามีการดำเนินการซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงให้พนังกั้นน้ำที่ชำรุดมีความก้าวหน้าอย่างไร เบื้องต้นคาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 24 สิงหาคมนี้
เลขาธิการ สทนช. กล่าวอีกว่า ส่วนในเรื่องของคุณภาพน้ำแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำรวกนั้น ก็ยังมีคุณภาพที่เกินเกณฑ์มาตรฐานของแม่น้ำ คือมีค่าสารหนูเกิน 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร แต่อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของเกณฑ์คุณภาพการใช้น้ำ ก็จะมีค่ามาตรฐานแตกต่างกัน ย้ำว่าต้องร่วมมือกัน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ ในเรื่องของเกณฑ์การใช้น้ำในประเภทต่าง ๆ วันนี้ถือเป็นการซักซ้อมและเตรียมความพร้อมทั้งการเร่งพร่องระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมากเพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับน้ำฝน โดยไม่กระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ และไม่ส่งผลต่อเนื่องให้เกิดน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่รอบกว๊านพะเยา ที่ขณะนี้มีปริมาณน้ำ 50% ของความจุเก็บกัก ซึ่งยังมีพื้นที่ว่างบริหารจัดการได้อยู่ โดยกรมอุตุนิยมวิทยาจะให้บริการข้อมูลเฉพาะพื้นที่ที่มีความแม่นยำและเป็นการล่วงหน้า ให้กับจังหวัดเพื่อนำไปใช้แจ้งเตือนพี่น้องประชาชน ด้านสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA จะสนับสนุนข้อมูลความชื้นในดินอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำโขงเหนือขณะนี้พบว่ามีค่าความชื้นในดินสูง ดังนั้น ฝนที่ตกลงมาส่วนใหญ่จะกลายเป็นน้ำท่าและไหลลงสู่ลำน้ำต่างๆ ซึ่งต้องประเมินระดับน้ำในแต่ละแห่งอย่างใกล้ชิดต่อไป
“จังหวัดเชียงราย และหน่วยงานต่างๆ ได้เตรียมการรองรับสถานการณ์ฝนไว้แล้วอย่างเข้มแข็ง เช่น มีการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำสายสำคัญ วางแผนเร่งระบายน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ ซ่อมแซมแนวป้องกันน้ำทั้งชั่วคราวและกึ่งถาวร เตรียมเครื่องจักรเครื่องมือให้พร้อม ได้แก่ เครื่องสูบน้ำ รถดูดโคลน เร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ขุดลอกท่อ รางระบายน้ำต่าง ๆ รวมถึงสร้างช่องทางเพื่อสื่อสารแจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนล่วงหน้า เพื่อป้องกันความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุด”
จากนั้น ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. นำคณะลงพื้นที่ติดตามการดำเนินการซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงให้พนังกั้นน้ำที่ชำรุดในพื้นที่แม่น้ำสาย อำเภอแม่สาย โดยมีนายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ร่วมให้ข้อมูลพร้อมเยี่ยมชมการปฏิบัติการด้านต่างๆ ทั้งแนวตลิ่งและการทำพนังกั้นน้ำตลอดแนวของแม่น้ำสาย โดยตั้งเป้าให้แล้วเสร็จในวันที่ 24 สิงหาคม เพื่อพร้อมรับมืออุทกภัยในเดือนสิงหาคมและกันยายนนี้.