วันที่ 19 ส.ค. 68 ที่สน.ประเวศ น.ส.ณัฐสินี ภิญโญปิยวิศว์(น.ส.ขวัญ) อดีตที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการฯ วุฒิสภา พร้อมทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ตามหมายเรียก เพื่อให้ปากคำในฐานะพยานในคดีหมิ่นประมาท ซึ่งคู่กรณี สว. ได้แจ้งความกลับ หลังจากที่ตนได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียน "ด้านจริยธรรม"

ส่วนสาเหตุที่ตนได้นัดเข้าพบพนักงานสอบสวนพร้อมกับทีมทนาย เนื่องจากเมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมาไม่สะดวกที่จะเข้าพบ เนื่องจากหมายค่อนข้างล่าช้า เมื่อได้รับหมาย จึงขอนัดใหม่ เป็นวันที่ 19 สิงหาคม 2568 และพาทีมทนายมาด้วย เพื่อให้ข้อเท็จจริง และ ให้ข้อกฎหมาย ก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อเท็จจริง ต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งข้อมูลต่างๆตนได้มีการให้กับทางพนักงานสอบสวนไปแล้ว ว่าเหตุการณ์เป็นอะไร ยังไง ทำไมจึงเกิดเหตุการณ์หมิ่นประมาท ขึ้น และในส่วนของประเด็นปัญหาที่เป็นคดีความ กับทาง คู่กรณี(สว.) ที่ตนถูกแจ้งความไว้ ในข้อหา หมิ่นประมาทฯ ตนได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียน ด้านจริยธรรม กรณี ถูกล่วงละเมิดทางเพศ จาก สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา ตามที่ปรากฏในข่าว

ด้านทนายรดิศทัต ประภานนท์ เผยว่า วันนี้ทางทีมทนาย ได้เข้าพบ พนักงานสอบสวน กับ ทางคุณขวัญ ในฐานะพยาน ในกรณีที่ ทาง สว. ได้มีการแจ้งความหมิ่นประมาทเอาไว้ ซึ่งเป็นการหมิ่นประมาทในมาตรา 326 ไม่ใช่ "การหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา" ซึ่งวันนี้ ทางพนักงานสอบสวนใช้เวลาสอบสวนกว่า สามชั่วโมง ซึ่งทางคุณขวัญได้ให้ข้อมูลกับทางพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว ซึ่งในวันนี้เราเข้ามาในฐานะพยาน มายื่นข้อมูลเพิ่มเติม เพราะว่าข้อมูลเดิม ที่ทาง สว. ได้แจ้งความไว้ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ เราก็แสดงความบริสุทธิ์ใจ และ มาปรากฏตัวในวันนี้ ซึ่งเป็นที่น่าพอใจของทุกฝ่าย หลังจากนี้ ก็ให้เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการของทางกฎหมาย ซึ่งเป็นคดีที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ "คดีหลัก" และ ในส่วนของ คดีหลักก็ยังคงมีการดำเนินคดี อยู่ที่ สน.เตาปูน ซึ่งยังอยู่ระหว่างการสรุปสำนวนส่งฟ้องต่อ อัยการ อยู่ในขณะนี้ และตอนนี้ ไม่ได้กังวลใจอะไร เพราะอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เราไปร้องเรียนจริยธรรมของท่าน สว.เมื่อเดือนที่แล้ว และ ในส่วน คดีอาญา ทางพนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างการจัดส่งเรื่องต่อไปให้กับ อัยการ 

ส่วนวันนี้ มาทำหน้าที่ ในฐานะพยานที่ถูกเรียกมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตามที่ สว. แจ้งความ หมิ่นประมาทไว้ ส่วนสุขภาพของทางคุณขวัญ หรือ น.ส.ณัฐสินี ภิญโญปิยวิศว์ ขณะนี้ก็กำลังรักษาตัวอยู่เกี่ยวกับอาการแพนิค ซึ่งก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่มีบางครั้ง เวลาที่ถูกคำพูด หรือ การกระทำที่กระทบจิตใจ ก็อาจจะมีอาการแพนิคขึ้นมาบ้าง เช่น มือสั่น ขาอ่อนแรง ล้ม ทรงตัวไม่อยู่

น.ส.ขวัญ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ไม่ได้หนักใจ กำลังใจดีมาก ขอขอบคุณทุกส่วนที่มีส่วนช่วย และ เป็นกำลังใจที่ดี รวมถึงบุคคลที่ติดตามข่าวสารทางโซเชียล ก็ได้มีการส่งข้อความมาหา มาพูดคุยให้กำลังใจเยอะมาก ต้องบอกว่า ทุกๆ ข้อความ นั้นเป็นกำลังใจที่ดีมาก ต้องบอกว่าอาจจะต่อสู้กันอีกนานมากๆ อยากจะขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้กับขวัญ รวมถึง ผู้ป่วยแพนิค ทุกๆ คน ก็อยากได้กำลังใจที่ดีในการใช้ชีวิตต่อไป เพราะว่าบางครั้งก็อาจจะท้อ เมื่อถูกกระทบกระเทือนทางจิตใจ อยากจะร้องไห้ บางทีเราก็พูดไม่ออก หน้าเรายิ้ม แต่บางทีข้างในอาจจะไม่ได้มีความสุข อยากจะขอเรียกร้องศักดิ์ศรี และ ทวงคืนสิทธิ์ในสิ่งที่ควรจะเป็น จะไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบ นี่คือสิ่งที่ขวัญต้องทำให้ได้ดีที่สุด ทุกอย่างต้องเข้าสู่กระบวนการของศาลยุติธรรมเท่านั้น 

ส่วนคู่กรณี คงไม่มีอะไรที่จะพูดถึง ขอให้เป็นไปตามกระบวนการของศาลจะยุติธรรม เพราะขวัญเชื่อมั่นว่า ประเทศไทย รวมถึง กฎหมายจริยธรรม นั้น มีกฎ มีระเบียบบังคับ สามารถที่จะดำรงไว้ถึง ความยุติธรรม ได้ และ ขวัญก็ยังคงเชื่อ ส่วนมีการส่งตัวแทนเข้ามาพูดคุยไกล่เกลี่ยจากทางคู่กรณีหรือไม่ ประเด็นนี้ ทางขวัญเอง ไม่ได้รับการติดต่อมา เป็นเพราะขวัญนั้น ไม่ขอคุยเรื่องประเด็นนี้กับใครทั้งนั้น และ มีการพูดออกสื่อไปชัดเจนแล้ว รวมถึงได้พูดคุยกับเพื่อนๆ และ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เราเคารพรู้จัก ถ้ามีประเด็นใดเกี่ยวกับเรื่องการเจรจา ขอไม่คุยทั้งนั้น ทุกท่านก็จะเข้าใจ และ ไม่มีใครเข้ามาเป็นตัวแทนไกล่เกลี่ยให้ และ เป็นกำลังใจที่ดีต่อกัน ท้ายนี้ขอขอบคุณท่านผู้กำกับ สน.ประเวศ รวมถึง ท่านรองผู้กำกับ ที่ให้ความอนุเคราะห์ และ กำชับในเรื่องของคดีให้ตรงไปตรงมาก็ขอให้ท่านนั้น ได้พิจารณาเป็นไปตามหลักฐาน ตามที่เราได้ให้ปากคำไว้

ทนายอิศรา ล้อวาณิชย์ กล่าวว่าขอเป็นกำลังใจให้ คุณขวัญ และ ต่อสู้ไปตามกระบวนการขั้นตอนต่อไปให้ดีที่สุด จริงๆ ก็ไม่ได้มีความกังวล เพราะว่าเราค่อนข้างที่จะตรงไปตรงมา ไม่ได้คิดว่าจะทำอะไรที่เกินเลยไป ซึ่งเราก็ได้ให้ข้อมูลในส่วนของเราไปหมดแล้ว ว่าเราไม่ได้ผิด อย่างไร