ตำรวจภูธรภาค 6 ทลายรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จับกุมผู้ต้องหา 'ม้าถอนเงิน' 5 ราย พบความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท ยึดรถหรูเบนซ์ และเงินสดจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 และคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้แก่ พล.ต.ต.ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ, พล.ต.ต.เดชพล เปรมศิริ, พ.ต.อ.สุทธิเวท บุญยรัตนกลิน และ พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ ได้นำทีมโดย พ.ต.อ.ศุภณัฐ ศตะกูรมะ, พ.ต.ท.จิรภัทร เพชรรัตน์, พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ สุดหอม, พ.ต.ท.กิตติ เกิดขันหมาก, พ.ต.ท.ธนานพ นิ่มสุวรรณ์, ร.ต.อ.ปริญวัฒน์ วรัทพงศ์วศิน และ ร.ต.อ.ณัฐชัย ศักดิ์บูรณาเพชร ดำเนินการตามหมายจับศาลจังหวัดพิจิตร เข้าจับกุมผู้ต้องหาในคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์รวม 5 ราย ได้แก่ น.ส.วิลาสินี บุญทา, นายธนพล ชีวินวงศ์ปฐม, น.ส.กุลณภัทร ทูลกิจใจ, นายไพบูลย์ หลักแก้ว และ นายธาวิน หรือโอม ทวีอุดมวาณิช ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน”
การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ โดยเจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางได้หลายรายการ ได้แก่ สมุดบัญชีธนาคาร 8 เล่ม, รถยนต์เก๋งเมอร์เซเดส-เบนซ์ C300 e จำนวน 1 คัน และเงินสด 476,340 บาท โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมทำหน้าที่เป็น “ม้าถอนเงิน” และผู้รวบรวมเงินของเครือข่าย โดยมี “บอส” เป็นชาวเชียงราย จากการตรวจสอบพบว่าคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 10 ล้านบาท และเฉพาะคดีที่ สภ.เมืองพิจิตร มีความเสียหายถึง 2.2 ล้านบาท หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองพิจิตรเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป