สำหรับเกาะพีพี คือ อัญมณีแห่งอันดามัน ที่เปล่งประกายเจิดจรัสดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมอย่างมากมายจนกลายเป็นหมุดหมายระดับโลกที่ทุกคนไม่ควรพลาด จึงเป็นเหตุผลหลัก ที่เซ็นทาราเข้าไปพลิกโฉมที่พักอันเรียบง่ายสู่รีสอร์ตที่ผสานความสงบและความงามของธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวด้วยการรับบริหาร เซ็นทารา วิลลา เกาะพีพี ซึ่งมี นายเอธัส มนต์เสรีนุสรณ์ เป็นเจ้าของรีสอร์ตและนักธุรกิจผู้มากประสบการณ์ ที่จะมาสะท้อนแนวทางการทำงานได้อย่างน่าสนใจ

นายเอธัส มนต์เสรีนุสรณ์ เจ้าของเซ็นทารา วิลลา เกาะพีพี และนักธุรกิจผู้มากประสบการณ์ กล่าวว่า เกาะพีพี คือสวรรค์สำหรับนักเดินทางที่มองหาช่วงเวลาอันแสนพิเศษ เช่นเดียวกับตนเองที่ตัดสินใจซื้อที่ดินบนเกาะแห่งนี้ในปี 2546 พร้อมพัฒนาธุรกิจด้านที่พัก  แต่ด้วยมีเหตุการณ์สึนามิในปี 2547 จึงทำให้โครงการต้องหยุดชะงักไปถึง 2 ปี หลังจากวิกฤตผ่านพ้นไป ในปี 2551 จึงได้ได้กลับมาสานต่อโครงการที่ค้างอยู่ และพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ด้วยการตัดสินใจจับมือกับแบรนด์เซ็นทารา โรงแรมสัญชาติไทยที่มีเครือข่ายมากมายทั้งในประเทศ และต่างประเทศจากความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวมาอย่างยาวนาน

 ซึ่ง นายเอธัส กล่าวว่า ได้ตัดสินใจทำธุรกิจโรงแรมอย่างจริงจัง เพราะมองว่าธุรกิจการท่องเที่ยวคือปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์ และประเทศไทยมีจุดแข็งสำคัญคือทะเลที่สวยงามเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ดังนั้นการเข้ามาบริหารของเซ็นทาราในปี 2565 จึงถือเป็นการพลิกโฉมครั้งสำคัญตามมาตรฐานของแบรนด์ โดยมีการปรับปรุงวิลลาเดิมทั้ง 41 ห้องให้ทันสมัยขึ้น ด้วยงบลงทุนในเฟสแรกประมาณ  200-300 ล้านบาท พร้อมมีแผนขยายห้องพักเพิ่มเป็น 79 ห้องในเฟสสองด้วยงบลงทุนเพิ่มเติมอีก 400-500 ล้านบาท เพื่อให้รีสอร์ตแห่งนี้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบที่สุดบนเกาะพีพี

 ทั้งนี้ นายเอธัส กล่าวต่อว่า ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2568 แม้จะเผชิญความท้าทายมากมาย แต่ตัวเลขการจองก็เริ่มกลับมาดีขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการเข้าพักช่วงเปิดตัว 2-3 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่  60% ซึ่งมั่นใจว่าหากทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ รีสอร์ตแห่งนี้จะสามารถทำได้ถึง 80% เนื่องจากเกาะพีพีเป็นWorld-Class Destination ที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาเยือนตลอดเวลา

ดังนั้น เซ็นทารา วิลลา เกาะพีพี จึง ไม่ได้เป็นเพียงรีสอร์ต แต่เป็นผลผลิตจากความมุ่งมั่นและแรงบันดาลใจที่สร้างสรรค์ขึ้นมาให้เป็นจริงอย่างที่ฝัน โดยตั้งเป้าจะพัฒนาพื้นที่ 60 ไร่ที่เหลือให้สมบูรณ์แบบภายใน 2 ปีข้างหน้า โดยปัจจุบันมีการพัฒนาไปแล้วประมาณ 25-30% หรือประมาณ 15-18 ไร่เท่านั้น จึงยังมีพื้นที่เหลืออีกกว่า 40 ไร่ให้พัฒนาเพิ่มเติมในอนาคต

โดย นายเอธัส กล่าวยืนยันว่า ภายใน 2-3 ปีข้างหน้าทางโรงแรมมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายห้องพักให้ถึง 79 ยูนิต และมั่นใจว่าด้วยความร่วมมือกับเซ็นทาราจะสามารถทำให้รีสอร์ตแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเกาะพีพีได้อย่างแน่นอน ซึ่งในช่วงไตรมาส 4 ที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นนั้นทางโรงแรมสามารถเปิดขายห้องพักได้ทั้งหมด 41 ห้อง โดยตั้งเป้าสิ้นปี 2568 สามารถทำรายได้ถึง 49 ล้านบาทต่อเดือน 

ด้าน ประไพจิต ทองมา ผู้จัดการทั่วไปของ เซ็นทารา วิลลา เกาะพีพี  กล่าวว่า รีสอร์ตมีแนวคิดเชิงอนุรักษ์ต่างๆ  ทั้งน้ำดื่มสะอาดที่ผลิตได้มาตรฐานและบรรจุภายในพื้นที่ สวนปลูกพืชผักและสมุนไพร ผลิตภัณฑ์ในห้องอาบน้ำที่มาจากแหล่งผลิตที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและตรวจสอบได้ ระบบแสงสว่างที่ประหยัดพลังงานเครื่องปรับอากาศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผู้ที่เข้าพักสัมผัสได้ถึงธรรมชาติและความสะดวกสบายทันสมัยในวิลลาทุกห้องที่มาพร้อมวิวอันน่าตื่นตาตื่นใจของทะเลอันดามันได้แบบเต็มตา

โดยห้องพักในวิลลามีให้เลือกหลายขนาด ที่ถูกออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติอย่างลงตัว ขณะที่ พรีเมียร์ สปา วิวทะเล  กับความเงียบสงบในห้องพื้นที่ 61 ตารางเมตรบนเนินเขา ที่มาพร้อมเตียงขนาดคิงไซส์ และการออกแบบที่เน้นความรู้สึกผ่อนคลาย สะท้อนถึงความงามของธรรมชาติที่โอบล้อมเกาะ ชมวิวทะเลแบบเต็มอิ่มด้วยการการคัดสรรอย่างพิถีพิถันในทุกๆบริการ เพื่อให้วันพักผ่อนสมบูรณ์แบบที่สุด

ขณะที่สระว่ายน้ำกลางแจ้งของรีสอร์ตสร้างขนานไปกับท้องทะเล สามารถผ่อนคลายริมสระไม่ว่าจะนอนอาบแดด อ่านหนังสือ หรือนั่งมองน้ำทะเลเปลี่ยนสีและจิบเครื่องดื่มเย็นๆ  สายฟิตก็เรียกเหงื่อ คงความแอคทีฟกันได้ที่ฟิตเนส Studio Fit  รวมถึงกีฬาทางน้ำหลากหลายประเภทที่เลือกเล่นได้ไม่จำเจ รวมถึงห้องอาหารมากมายเพื่อมอบรสชาติที่ทุกคนถูกใจ ได้แก่ ห้องอาหารซิกเนเจอร์ Maya Breeze บาร์ริมสระน้ำ และสกายบาร์

ด้วยที่ตั้งของโรงแรมบนเกาะพีพี  ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเกาะแก่งอันสวยงามหลายแห่งสามารถเลือกซื้อแพกเกจทัวร์แบบวันเดย์ ทริป ดำน้ำตื้นดูปะการัง ด้วย speed boat จากท่าเรืออ่าวปอ หรือเรือหางยาว จากท่าเรือต้นไทร ไปยังอ่าวมาหยา ปิเละลากูน เกาะยูง เกาะไผ่ หรือนั่งเรือไปจุดชมวิวพีพีได้อย่างง่ายดาย และมีทัวร์ให้เลือกหลายแบบ  ช่วยเติมเต็มทริปพักผ่อนบนเกาะพีพีให้สนุกยิ่งขึ้น

ผู้ที่สนใจสามารถสำรองห้องพักล่วงหน้ากับโปรโมชั่นพิเศษ พัก 3 คืน จ่าย 2 คืน กับเซ็นทารา ได้ที่ อีเมล: [email protected] โทร.66- 5626900  โดยสำรองห้องพักได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2568 และเข้าพักได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 หรือที่เว็ปไซต์ https://www.centarahotelsresorts.com/centara/th/cpi