แรงกดดันทางการเมือง โหมโรง ดักหน้า “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม  ก่อนถึงวันชี้ชะตา “คดีคลิปเสียง” ในวันที่ 29 ส.ค.68 นี้อย่างเข้มข้น !

โดยเฉพาะห้วงเวลาก่อนถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย 29 ส.ค. อย่าลืมว่า “21 สิงหา” คือวันที่นายกฯอิ๊งค์ ในฐานะ ผู้ถูกร้อง จะต้องไปชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในนัดไต่สวน ซึ่งจะตรงกับ “วันเกิด” พอดิบพอดี

ถามว่า การไปชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ศาลไต่สวน คดีคลิปเสียงการสนทนากับ “ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา นั้นมีความสำคัญหรือไม่ ต้องบอกว่ามีแน่นอน เพราะนี่ถือเป็น “โอกาส” ที่ผู้ถูกร้องคือนายกฯอิ๊งค์ จะได้ชี้แจงเพื่อหักล้าง “ข้อกล่าวหา” จาก “ผู้ร้อง” คือ “36สว.”  ยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ แพทองธาร สิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82, มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่

เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

สำหรับนัดไต่สวนพยานบุคคลเพิ่มเติม ในวันที่ 21 ส.ค.นั้นมีด้วยกัน 2 ปากคือ นายกฯแพทองธาร กับ “ฉัตรชัย บางชวด”  เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)

 “นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช”  เลขาธิการนายกรัฐมนตรี  ซึ่งถือว่าเป็นผู้ใกล้ชิดทั้ง “นายกฯอิ๊งค์” และถือเป็น “สายตรง” พ่อนายกฯ คือ “ทักษิณ ชินวัตร” ยังบอกได้แค่เพียงว่า “มีแนวโน้มว่านายกฯจะไปเอง”

ขณะที่ตัวนายกฯอิ๊งค์ เองยังไม่เคยบอกกับสื่อชัดๆว่า จะไปชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญด้วยตัวเอง เพียงแต่บอกว่า วันที่ 21 ส.ค.ตรงกับวันเกิดของตัวเองเท่านั้น !

สถานการณ์การเมืองที่กำลังเข้าสู่หัวเลี้ยวหัวต่อ โดยมี “คดีคลิปเสียง” เป็น “เงื่อนไข” สำคัญ  โดยเฉพาะ “กองแช่ง” ไม่เชื่อว่า นายกฯอิ๊งค์ จะกล้าไปชี้แจงด้วยตัวเอง เท่านั้น หากยังต้องจับตาว่า เจ้าตัวจะตัดสินใจ “ลาออก” ในวันเกิดของตัวเองเลยหรือไม่

“จตุพร พรหมพันธุ์”  แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน เมื่อ 16 ส.ค. 68 ประเมินว่า นายกฯอิ๊งค์ จะ “ลาออก”  หรือไม่ ต้องรอลุ้นว่าเจ้าตัวจะไปไต่สวนตามนัดศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 21 ส.ค.หรือไม่

“ถ้านายกฯ จะลาออก คงไม่ไปไต่สวนให้เจ็บตัวเพิ่มอีก แต่อย่างน้อยที่สุดคนที่เป็นนายกฯ ถ้ามีความเชื่อมั่นว่า ตัวเองมีความสุจริตใจ ไม่ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหานี้ ก็ไม่มีอะไรที่จะไม่ไป ต้องทายท้าเลยว่า ข้อเท็จเป็นอย่างนี้ ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัวเลยกับการไปขึ้นศาลรัฐธรรมนูญ”

กระแสข่าวการลาออก ดังกระหึ่มและกดดัน รัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งตัวนายกฯอิ๊งค์ เองที่แม้เจ้าตัวจะไปปรากฎในการประชุมสภาฯพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2569 ที่ผ่านมา แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อชัดเจน  ยิ่งทำให้เกิดความคลุมเครือ

ล่าสุด มีความเคลื่อนไหวจาก “กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน” ตั้งโต๊ะแถลงข่าว กดดันซ้ำสอง พุ่งตรงไปที่ นายกฯแพทองธาร ด้วยการนัดรวมตัวในวันที่ 21 ส.ค.นี้ที่หน้ารัฐสภา ตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป เพื่อเรียกร้องในประเด็นต่างๆ ทั้งข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ต้องการแสดงเจตจำนงเกี่ยวกับบันทึกความเข้าใจ (MOU) ฉบับที่ 43 และ 44 ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ทางบกและทางทะเล เนื่องจากมีการพิจารณาเรื่องนี้ในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าอาจส่งผลกระทบต่ออธิปไตยของชาติ

รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมของทักษิณ ที่เดินทางกลับมาประเทศไทยแต่ยังไม่เคยต้องโทษจำคุกจริง แม้ว่าศาลฎีกาจะนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 9 ก.ย.นี้

ประเด็นคลิปเสียงระหว่าง แพทองธาร กับฮุน เซ็น โดยกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน เชื่อว่าอาจเป็นสาเหตุของข้อพิพาทชายแดน ซึ่งศาลจะนัดไต่สวนในวันที่ 21 ส.ค.นี้

และการชุมนุม ของกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ยังเตรียมที่จะยื่นคำร้องขอเข้ารับฟังการไต่สวนด้วยตัวเองในวันที่ 21 ส.ค.รวมถึงการฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 ส.ค.ด้วย         

การชุมนุม ในวันที่ 21 ส.ค.นี้ที่หน้ารัฐสภา เกียกกาย แน่นอนว่ายังไม่ใช่ “ม็อบใหญ่” เนื่องจากจะต้องรอไปลุ้นกันวันชี้ชะตา 29 ส.ค.นี้ ว่า นายกฯแพทองธาร จะหลุดจากเก้าอี้นายกฯคนที่ 31 หรือไม่

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า แรงกดดันจากม็อบฝั่งตรงข้าม “ระบอบทักษิณ” อาจกลายเป็น อีกหนึ่งของ “ปัจจัย” ที่นายกฯแพทองธาร ต้องนำไปตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไร ในวันนัดไต่สวน 21 สิงหา !