เมื่อวันที่ 18 ส.ค.68 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์เฟซบุ๊ก "Paisal Puechmongkol" ระบุว่า คนดักคอปล่อยข่าวลือ ศาลรัฐธรรมนูญรับถุงขนมที่อินเดีย บ้องตื้นเกินไป หลอกได้ก็แต่คนโง่
1.นักปล่อยข่าวลือดักคอเพื่อบีบคั้นให้ศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนนายกแพทองธาร ปล่อยข่าวกันเอิกเกริกว่าประธานและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 5 คน เดินทางไปอินเดีย ไปรับถุงขนมกัน โดยประธานรับไป 100 กิโลส่วนตุลาการอื่น คนละ 5 กิโล รวมแล้ว 120 กิโล คนโง่ก็อาจจะหลงเชื่อ แต่ผมเห็นว่าเป็นเรื่องบ้องตื้นโกหกชัด ๆ จับได้คาหนังคาเขา
2.เหตผลที่ผมว่าบ้องตื้นก็เพราะว่า การขนเงิน 120 กิโลกรัมนั้น โดยเฉพาะในการเดินทางไปต่างประเทศทำไม่ได้เลย เพราะต้องผ่านด่านศุลกากร ที่มีการตรวจข้าวของในกระเป๋าอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะอินเดีย มีการตรวจอย่างเข้มงวดและไม่ละเว้นเหมือนบ้านเรา และไม่มีคนไปรับกระเป๋าถึงตัวเครื่องบินแบบบ้านเรา
กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่บรรจุเงินได้ 50 ล้านบาทเป็นอย่างมาก คือ 50 มัด เป็นแบงก์ใบละพัน มัดละ 1 ล้านบาท หรือเรียกว่า 1 กิโล ถ้า 100 กิโล ก็ต้องใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 กระเป๋า แม้ 5 กิโล ก็ต้องใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ ไม่มีทางลอดหูลอดตาศุลกากร หรือด่านตรวจคนเข้าเมืองได้เลย เพราะเขามีเครื่องเอกซเรย์อย่างดี คนปล่อยข่าวเรื่องนี้ ไม่ทราบระบบระเบียบ และลักษณะดังกล่าว จึงปล่อยข่าวแบบโง่ ๆ ที่แค่คนมีความรู้บ้าง ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้
เหตุผลอีกประการหนึ่ง คือถ้าจะให้เงินกันแบบนี้ ทำไมต้องไปให้กันที่อินเดีย ให้กันที่ประเทศไทยก็ได้ และการให้ที่ประเทศไทยก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการเบิกถอนเงิน 100 ล้านบาทนั้น ไม่สามารถถอนได้จากธนาคารสาขาใด ๆ ต้องไปรับจากธนาคารแห่งประเทศไทย และถ้ารับเงินจำนวนมากแบบนี้ เขามีระบบในการแจ้ง ปปง. หรือหน่วยงานตรวจสอบเข้าทำการตรวจสอบทันที คนที่เบิกเงินแล้วขนไปอินเดียก็ทำไม่ได้ ถ้ามอบกันที่อินเดียก็ขนออกไม่ได้ ขนเข้าประเทศอินเดียก็ไม่ได้ การปล่อยข่าวเรื่องนี้ จึงเป็นเรื่องของคนโง่หลอกคนโง่เท่านั้น
ถามว่าหลอกทำไม ก็เป็นการสร้างแรงกดดันให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินถอดถอนนายกแพทองธาร จึงดักคอไว้ล่วงหน้าเพราะได้รับถุงขนมเป็นสินบน 100 กิโลกรัม แต่การปล่อยข่าวเรื่องนี้ หลอกผู้รู้ไม่ได้หรอกครับ และคาดว่าศาลรัฐธรรมนูญเองจะเข้าใจว่า เขาเล่นกันอย่างไร ซึ่งขณะนี้ก็ด่าตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญกันล่วงหน้าทั้งบ้านทั้งเมืองแล้ว
แบบนี้มันไม่ใช่การต่อสู้แบบธรรมยุทธ แต่เป็นวิธีสกปรก น้ำที่สกปรกซักเสื้อผ้าให้สะอาดไม่ได้ฉันใด ก็ไม่สามารถทำให้กระบวนการยุติธรรมใสสะอาดฉันนั้น และศาลรัฐธรรมนูญคงจะไม่บ้าจี้ตามการหลอกลวงแบบนี้