วันที่ 18 ส.ค.2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้พิจารณากระทู้ถามของนายชูชีพ เอื้อการณ์ สว.เกี่ยวกับผลกระทบจากปัญหาการค้าปลีกข้ามชาติประเภทการค้าศูนย์เหรียญ ถามนายกฯ โดยนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ชี้แจงแทนนายกฯว่า หลังจากที่มีคำสั่งของนายกฯ ต่อการตั้งคณะกรรมการเพื่อปราบปรามนอมินีที่นักลงทุนต่างชาติใช้ช่องทางกฎหมายหากินบนแผ่นดินไทย ซึ่งจากการทำงาน 8-10 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีธุรกิจกว่า 46,000 บริษัทที่เข้าข่ายนอมินี เช่น ที่ข้างกระทรวงพาณิชย์ พบว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยึดทรัพย์อาคารหรู บ้านพักติแม่น้ำ ซึ่งกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์บอบบาง ต้องทำงานร่วมกับหลายหน่วยงาน และขณะนี้ ปปง. เตรียมผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับนอมินี ให้เป็นกฎหมายเข้ามูลฐานความผิดยึดทรัพย์ เช่น กฎหมายฟอกเงิน
รมช.พาณิชย์ กล่าวต่อว่า ตนขอฝากสว. หากกฎหมายเข้ามาให้ผลักดัน ซึ่งมีประโยชน์กับคนไทย ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ ทำระบบจับตาความเคลื่อนไหวของบัญชีธุรกิจต่างๆ ของผู้ประกอบการที่จดทะเบียนที่พบว่ามีพฤติกรรมจดทะเบียนซซ้ำซ้อน เช่น เจ้าของคนเดียวกัน 10-20 บริษัท มีเลขที่อยู่เลขเดียวกัน ซึ่งได้ส่งให้กรมสรรพากตรวจสอบ ส่วนที่กังวลว่าจะตรวจสอบอย่างนั้น ในขั้นตอนสามารถทำได้หลายอย่าง เช่น การเสียภาษี ดูบิลการขาย แต่กรมสรรพากรตรวจสอบไม่เฉพาะบิลการขายเท่านั้น เพราะเมื่อได้รับข้อมูลเรื่องนอมินีแล้ว ต้องเฝ้าระวัง และตรวจสอบ บิลสั่งสินค้าเข้า ดูสินค้าคงเหลือ ดูผู้ประกอบการข้างเคียง เป็นต้น จากการตรวจสอบความเคลื่อนไหวของบริษัทที่จดทะเบียน ตามขั้นตอนต้องส่งงบการเงิน 1 ปีหลังจดดทะเบียน แต่ในระบบที่ออกแบบเพื่อตรวจสอบสามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหว เช่น การเปลี่ยนเจ้าของ บริษัทนอมินีจำนวนมากที่เจอ 46,000 รายเป็นธุรกิจที่ซ้ำซ้อนกันหรือไม่ ขณะที่ประเด็นร้านค้าศูนย์เหรียญ และตรวจสอบโกงดังนั้นเป็นประเด็นที่ต้องตรวจสอบและเอาผิด ยึดทรัพย์สินค้าหรือดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ใช่แค่ปรับ
“ผมไม่นิยมที่ออกไปทำงานแต่โทษเบาบาง ทำให้พวกที่ทำผิดกฎหมายไม่เกรงกลัว ดังนั้นผมจะทำให้เต็มที่ ผมพยายามทำงานให้รัฐบาล ให้กระทรวงพาณิชย์ ทำงานให้ประชนดีที่สุด ผมไม่สนับสนุนทุนต่างชาติที่เอาเปรียบคนไทยแน่นอน ผมรับผิดชอบดูกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดังนั้นเมื่อมีการตั้งข้อสังเกตแล้ว หากให้ผมลงมาทำแต่ทำไม่ได้ ถือว่าผมทำงานไม่สำเร็จ ตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายผมต้องทำให้ได้ และตั้งใจปราบนอมินี เพื่อคนไทยและร้านค้าไทย ทั้งนี้ในการทำงานต้องทำงานควบคู่กับกรมสรรพากร และต้องหารือกับสว.ด้วย” นายสุชาติ กล่าว