กกล.บูรพา-ฉก.อรัญประเทศ-กองร้อยทหารพรานที่ 1206 ร่วมกับ ร.2 พัน 1 รอ.สกัดเข้มตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาทางด้านจังหวัดสระแด้ว ล่าสุดสามารถรวบ 1 สาวไทย 2 หนุ่มไทย รับสารภาพไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา

เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 17 ส.ค.68 กกล.บูรพา ,ฉก.อรัญประเทศ , กองร้อยทหารพรานที่ 1206 ร่วมกับ ร.2 พัน 1 รอ. ได้รับแจ้งเบาะแสการลักลอบเข้าเมือง จึงเข้าตรวจสอบในพื้นที่บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระเเก้ว และพบกลุ่มคนต้องสงสัย 3 คน เมื่อเข้าประชิดตัว ผู้นำพาชาวกัมพูชา 2 รายได้อาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไปทันที เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวหญิงไทยไว้ได้ 1 ราย คือ นางสาวสุดารัตน์ อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร

ซึ่งจากการสอบสวน นางสาวสุดารัตน์ ให้การว่าเธอได้รับการชักชวนจากนายหน้าให้ไปเปิดบัญชีธนาคารหรือ "บัญชีม้า" ที่ประเทศกัมพูชา โดยได้รับค่าจ้างสูงถึง 4,000 บาทต่อบัญชี ทำให้เธอตัดสินใจเดินทางไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม2568 ที่ผ่านมา แต่หลังจากทำงานได้ไม่นาน เธอก็ต้องการกลับบ้าน เนื่องจากสถานการณ์บริเวณชายแดนเริ่มไม่ปลอดภัย เธอจึงจ่ายเงิน 4,500 บาท ให้กับผู้นำทางชาวกัมพูชาเพื่อพาเธอลอบกลับเข้ามายังประเทศไทย แต่ก็มาถูกจับกุมตัวได้ก่อนถึงจุดนัดหมาย เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่ง สภ.คลองน้ำใส เพื่อดำเนินคดีในข้อหาลักลอบเข้าเมือง

ต่อมาในวันเดียวกัน เวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดเดิมได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัยอีก 2 ราย เดินเท้าอยู่ในไร่อ้อยในพื้นที่บ้านกุดหิน ตำบลตลองน้ำใส อำเภออรัญประเทศ จะมุ่งหน้าไปยังฝั่งกัมพูชา เมื่อเข้าตรวจสอบพบว่าเป็นชายไทย คือ นายสิทธิพร อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดกาญจนบุรี และ นายสุวัฒน์ อายุ 44 ปี ชาวจังหวัดนครปฐม จากการสอบสวน ทั้งสองให้การว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน และถูกชักชวนจากนายหน้าชื่อ "มาร์ค" ให้ไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา โดยก่อนเดินทาง นายมาร์คได้ให้ทั้งคู่เปิดบัญชีธนาคารคนละ 1 บัญชี และเซ็นเอกสารจัดตั้งบริษัท ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินทางจากจังหวัดนครปฐมมายังอำเภออรัญประเทศ เมื่อถึงที่สถานีขนส่งอรัญประเทศ มีชายไทยมารับพวกเขาและพามาส่งบริเวณชายแดน พร้อมบอกให้เดินเท้าเข้าไปในไร่อ้อยเพื่อรอผู้นำพาชาวกัมพูชามารับ แต่ในระหว่างที่กำลังเดินอยู่นั้น ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ที่ลาดตระเวนอยู่ตรวจพบและจับกุมตัวได้พร้อมของกลางเป็นเอกสารการจดทะเบียนบริษัท ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำตัวไปขยายผลทางคดี ที่ สภ.คลองน้ำใสต่อไป