ทัพเรือภาคที่ 2 สนธิกำลังหน่วยความมั่นคง จับเรือขนน้ำมันดีเซลเถื่อนกลางทะเลสงขลา ยึดของกลางกว่า 20,000 ลิตร คุมลูกเรือ 4 คน ดำเนินคดีปรับเกือบ 4 ล้านบาท เร่งสอบขยายผลโยงเสี่ยโจ้
เมื่อวันที่ 14 ส.ค.68 เวลา 18.00 น. ที่ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 พลเรือโท นเรศ วงศ์ตระกูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 (ศรชล.ภาค 2) แถลงข่าวผลการจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันผิดกฎหมายในทะเลอ่าวไทยได้ช่วงกลางดึก วันที่ 13 สิงหาคม หลังสายข่าวแจ้งพบเรือดัดแปลงสภาพลักลอบบรรทุกน้ำมันผิดกฎหมาย จึงสั่งการให้เรือ ต.995 พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ ออกลาดตระเวน กระทั่งช่วง 20.00 น. วันที่ 13 สิงหาคม ไปพบเรือชื่อ “กระแสร์สิน ดอนสัก” ซึ่งเป็นเรือดัน–ลากจูง ลำดังกล่าว ลอยลำอยู่ในอ่าวไทย ห่างจากชายฝั่งอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและส่งสัญญาณไปยังไต๋ก๋งเรือ เพื่อขอตรวจค้น
จากนั้นก็นำเรือ ต.995 เข้าเทียบ และเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจสอบบนเรือ ปรากฏว่าพบการดัดแปลงท้องเรือเป็นถังน้ำมัน 2 ช่อง ภายในบรรจุน้ำมันดีเซล ประมาณ 20,000 ลิตร ซึ่งไม่มีใบอนุญาตขนส่ง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมเรือและไต๋ก๋งเรือพร้อมลูกเรือ รวมทั้งหมด 4 คน เข้าเทียบท่าที่ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสรรพสามิตจังหวัดสงขลา ให้เข้าตรวจสอบ และแจ้งข้อกล่าว ในความผิดฐานครอบครองและขนส่งน้ำมันโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงนำเข้าสินค้าโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา ดำเนินคดี พร้อมรายงานให้นายอำเภอเมืองสงขลาและอัยการจังหวัดสงขลาทราบตามขั้นตอน ทั้งนี้คดีดังกล่าวมีการเปรียบเทียบปรับผู้ต้องหาทั้งหมดเกือบ 4 ล้านบาท ส่วนน้ำมันและเรือของกลาง เก็บรักษาไว้เป็นหลักฐานในสำนวนคดี
ทั้งนี้ น้ำมันเถื่อนดังกล่าว จะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับ “เสี่ยโจ้ ปัตตานี" ก็ต้องสืบสวนสอบขยายผลเพิ่มเติม และหากพบว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้าง ก็ต้องดำเนินคดีเพิ่มเติม รวมทั้งที่มาของน้ำมัน 20,000 ลิตรที่ยึดได้ เจ้าหน้าที่ก็เร่งสอบสวนว่ามาจากที่ใด ทั้งนี้ทหารเรือ ยังคงวางกำลังลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบ และหากประชาชนแจ้งเบาะแสข้อมูลข่าวสารมายัง ศรชล ภาค 2 หรือ ทัพเรือภาค 2 ว่ามีเรือกระทำผิดกฎหมาย หรือลักลอบขนน้ำมันเถื่อน ก็จะเข้าจับกุมทันที และขณะนี้ก็ยืนยันว่า ทัพเรือภาคที่ 2 เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจพื้นที่ทางทะเล เนื่องจากประเทศไทย อยู่ในภาวะที่มีสถานการณ์หลายอย่างที่ทำให้ต้องเพิ่มความเข้มงวด ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางทะเลอย่างต่อเนื่อง โดยบูรณาการกำลังร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านการลาดตระเวนทั้งทางเรือและอากาศ การใช้ระบบเรดาร์ชายฝั่ง และการปฏิบัติตามข่าวกรอง เพื่อสกัดกั้นการทำประมงผิดกฎหมาย การลักลอบขนถ่ายสินค้าต้องห้าม และการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ควบคู่กับการสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ผู้ประกอบการและชุมชนชายฝั่งในการร่วมกันพิทักษ์ผลประโยชน์ทางทะเลของประเทศอย่างยั่งยืน