วันที่ 14 ส.ค. 68 นายวิฑูรย์ เก่งงาน ในฐานะทนายความและที่ปรึกษากฎหมายราชสกุลประวิตร พร้อมด้วย พลเอก หม่อมหลวง สุปรีดี ประวิตร อดีตหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประธานสโมสรราชประชา ร่วมกันแถลงข่าวเรียกร้องความเป็นธรรมให้เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ปฏิบัติตามคำพิพากษาในคดีทุบทำลายเจดีย์เจ้าจอมมารดาแช่ม 

พลเอก หม่อมหลวง สุปรีดี กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2551 ซึ่งการทุบเจดีย์เจ้าจอมมารดาแช่มที่ถือเป็นโบราณสถานแล้ว ยังเป็นการทําร้ายจิตใจตนเองและราชสกุลประวิตร เช่นเดียวกันกับทุกคนหากมีใครมาทุบเจดีย์ที่บรรจุอัฐิครอบครัวจะรู้สึกอย่างไร โดยเจตนารมณ์ของตนเองคือขอให้ทางเจ้าอาวาสวัดวัดกัลยาณมิตรฯยอมรับและสร้างเจดีย์เจ้าจอมมารดาแช่มให้ในตําแหน่งและรูปแบบเดิม ซึ่งมีการออกแบบไว้เรียบร้อยหมดแล้ว อีกทั้งศาลฎีกาได้มีคําพิพากษาระบุให้วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหารต้องดำเนินการรื้อถอนศาลารายที่สร้างขึ้นมาใหม่ทับบนรากฐานเดิมของที่ตั้งเจดีย์เจ้าจอมมารดาแช่มออก และก่อสร้างเจดีย์องค์ใหม่รูปแบบเดิมของเจ้าจอมมารดาแช่ม ตามความจริงที่ถูกต้องมาตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ตามตนเองยืนยันว่าไม่ได้ลบหลู่หรือมีเจตนาจะทําลายพระพุทธศาสนา มีแต่ตั้งใจที่จะเชิดชูพระพุทธศาสนา อีกทั้งตนเองก็เป็นโยมอุปัฏฐากของวัดแต่เหตุใดกลับมาทุบเจดีย์ทิ้งเช่นนี้

ด้านทนายวิฑูรย์  ระบุว่า ก่อนหน้านี้มีการพูดคุยทําข้อตกลง MOU ให้วัดสร้างเจดีย์เจ้าจอมมารดาแช่ม ซึ่งมีการทําหนังสือขอไปยังกรมศิลปากร แต่ปรากฏว่าทางเจ้าอาวาสวัดไม่ยอมสร้างตามข้อตกลง แต่กลับสร้างศาลารายทับที่แทน จึงมีการฟ้องร้องไปยังศาลเเพ่งธนบุรี ซึ่งวัดแพ้ทั้งศาลชั้นต้น อุทธรณ์ และฎีกา โดยศาลฎีกา พิพากษาให้วัดสร้างเจดีย์เจ้าจอมมารดาแช่มในตําแหน่งเดิมพร้อมออกค่าใช้จ่ายจํานวน 1.1 ล้านบาท

เบื้องต้นจากการพูดคุยกับเจ้าอาวาส ท่านยืนยันว่ายังไงก็ไม่ทุบศาลารายทิ้งพร้อมบอกอีกว่ามีสิทธิและคําสั่งอะไรจะมาใหญ่กว่าวัด จึงได้มีการทําหนังสือสอบถามไปยังกรมศิลปากรว่าจะขอบังคับคดีทุบศาลารายได้หรือไม่ ซึ่งทางกรมศิลปากรตอบกลับมาว่าศาลารายไม่ใช่โบราณสถานสามารถทุบได้และให้ใช้ใบอนุญาตเดิมที่กรมศิลปากรเคยอนุญาติให้สร้างเจดีย์เจ้าจอมมารดาแช่ม แต่ทางวัดก็ยังไม่ยอมจึงตัดสินมาร้องเรียนผ่านสื่อ

ทั้งนี้ ทนายวิฑูรย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเองจะให้ให้เวลาทางวัด 15 วันในการตอบรับดำเนินการตามคำพิพากษาศาล แต่หากไม่มีการตอบรับก็จะยื่นเรื่องต่อไปยังกรมบังคับคดี เพื่อนำผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการทุบศาลารายและสร้างเจดีย์เจ้าจอมมารดาแช่มตามคําพิพากษาศาลฎีกา