วันที่ 14 ส.ค.2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษ มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทน ราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2569 วาระ 2–3 ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตั้งแต่เปิดสภาฯมาตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเวลาบ่ายสามโมงเย็นพิจารณาได้เพียง 2 มาตราเท่านั้น คือมาตรา 14-15 เป็นไปอย่างล่าช้า ทำให้ประธานสภาฯท้วงว่าวันนี้การพิจารณาเป็นไปอย่างช้า เพราะเกรงว่าจะเสร็จไม่ทันตามวันเวลากำหนดไว้ ขอให้สมาชิกแปรญัตติไม่ซ้ำประเด็นกัน
ต่อมา เวลา 15.55 น. ที่ประชุมสภาฯ มีมติเห็นด้วยกับมาตรา 15 งบประมาณกระทรวงคมนาคม ด้วยคะแนน 248 เสียง ไม่เห็นด้วย 133 เสียง งดออกเสียง 23 เสียง ไม่ลงคะแนน 4 เสียง
จากนั้นเข้าสู่การพิจารณา มาตรา 16 งบประมาณกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ซึ่งนายปกรณ์วุฒิ อุดมพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ได้ลุกขึ้นแจ้งต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าฝ่ายค้านได้ให้ความร่วมมือเป็นองค์ประชุม ร่วมแสดงตนอยู่ตลอดตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ และเห็นว่าฝ่ายรัฐบาลจริงๆองค์ประชุมครบอยู่ตลอด แต่มาตรา 15 ที่เพิ่งลงมติไป ถ้าดูดีๆฝ่ายรัฐบาลน่าจะเหลือองค์ประชุมอยู่ 248 ท่าน ถ้ากลับไปอีกสัก 2 – 3 ท่าน ตนก็ไม่รู้จะแบกต่อไปได้หรือไม่ ฝากรัฐบาลดูแลองค์ประชุมดีๆ เห็นบอกว่าไม่ต้องยืมจมูกฝ่ายค้านหายใจ ถึงเวลาอาจจะต้องมาอ้อนวอนให้พวกตนต่อลมหายใจ ดูแลกันเองดีๆด้วย
ทำให้นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นตอบโต้ทันทีว่า ต้องขอบคุณฝ่ายค้านที่เป็นห่วง แต่คิดว่ารัฐบาลของเรามีความมั่นคงรับผิดชอบเกี่ยวกับองค์ประชุม เรามีจมูกของเราหายใจ ไม่จำเป็นต้องพึ่งจมูกใคร ก่อนที่ นายปกรณ์วุฒิ ลุกขึ้นย้อนว่า “ขอบคุณท่านอดิศรที่ยืนยัน จะได้รู้ว่าอยู่ด้วยตัวเองได้ พวกผมจะได้ไม่ต้องแสดงตนให้”
จากนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า คิดว่าเราร่วมมือกันด้วยดีมาตลอด ขอให้ทุกท่านร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อที่ประชาชนจะได้มีงบประมาณใช้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น ที่ประชุมจึงดำเนินการประชุมต่อไป
ทำให้การลงมติในมาตรา 16 ต้องใช้เวลารอนานกว่า 8 นาที ของสส.รัฐบาลมาลงคะแนน เนื่องจากฝ่ายค้านไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม