วันที่ 14 ส.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงความชัดเจนในการยุบศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า ได้พูดคุยกับพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผอ. ศบ.ทก. ในช่วงสถานการณ์ที่คลี่คลาย ซึ่งเป็นการประเมินจากหน้างาน หากสถานการณ์ดีขึ้นก็จะมีการยุบศูนย์และปล่อยให้อำนาจให้กระทรวงต่างๆได้ทำหน้าที่  ก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกันว่าจะยุบภายหลังจารการพูดคุย การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป  (GBC) เสร็จสิ้น  แต่เมื่อสองสามวันที่ผ่านมามีสถานการณ์เกิดขึ้น ในลักษณะบานปลาย จึงยังไม่จำเป็นที่จะเรียกประขุม สมช.ภายในสัปดาห์นี้ โดยจะมีการประชุมอีกครั้ง ในวันที่ 18 ส.ค. นี้  ซึ่งน่าจะมีความชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้มีปัญหา แต่เป็นการพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาสถานการณ์ในแต่ละช่วง เพราะใน สมช. และ ศบ.ทก. มีเหล่าทัพในนี้ด้วยยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรที่ไม่เข้าใจกัน ก็ได้มีการมอบอำนาจให้ส่วนหน้าเป็นหลัก อยากให้ทุกส่วนเข้าใจไม่อยากให้เกิดความบานปลาย

เมื่อถามว่า การรับมือกรณีที่ประชาชนที่ออกจากศูนย์อพยพ และบางส่วนต้องไปอยู่ที่สถานีบริการน้ำมันนั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า เรื่องนี้อยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาลและทหาร รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่จะต้องชี้แจงทำความเข้าใจให้กับประชาชน ซึ่งเราห้ามความกังวลของใครไม่ได้ แต่ต้องพยายามทำความเข้าใจให้ทราบว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร อีกทั้งมองว่าเรื่องนี้ทุกส่วนต้องช่วยกันแก้ปัญหาให้ได้มากที่สุด 

เมื่อถามว่า ความคืบหน้าในการประชุมเพื่อพิจารณายุบ ศบ.ทก. จะเป็นสัปดาห์หน้าหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ที่มีการพูดคุยกันมาสม่ำเสมอเห็นว่าควรจะประเมินสถานการณ์ให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง เพราะขณะนี้ยังมีประเด็นต่างๆอยู่ และยังไม่มีการปรับการบริหารทางยุทธวิธี จึงไม่สามารถที่จะยุติหน่วยงานได้ในทันที 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า การตั้งที่ปรึกษาของ ศบ.ทก. โดยยืนยันว่า การตั้งเลขาคณะรัฐมนตรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไม่มีอะไรเลย เพราะเป็นการตั้งที่ปรึกษาของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ใช่การตั้งที่ปรึกษา ศบ.ทก. ซึ่งตนอยากให้ผู้สื่อข่าวกลับไปถาม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ว่าตนไม่ได้เอาชื่อใครออก และตนก็เห็นชอบให้มีการแต่งตั้ง ตั้งแต่สมัยตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้ว และย้ำว่าการตั้งที่ปรึกษาดังกล่าวไม่ได้เกิดปัญหาอะไรกับรัฐบาล