ป.ป.ส. รับตัวผู้ต้องหาหลบหนีคดียาเสพติดจาก สปป.ลาว กลับไทย 5 ราย ล้างเครือข่ายข้ามชาติ

วันที่ 13  ส.ค.68 ที่ ป.ป.ส. นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วย นายคณิศร ภาพีรนนท์  ผอ.ปปส.ภ.4 นายชัชชัย ไฝ่ขาว ผอ.ปพ.ปปส.ภ.8 และนางสาวปุลพร พานิชการ อัครราชทูตที่ปรึกษาด้านควบคุมยาเสพติด 
ณ เวียงจันทน์ เป็นคณะผู้แทนประเทศไทย โดยมี พันเอก จันทอน เฮืองคำไซ เลขาธิการสำนักงานตรวจตราและควบคุมยาเสพติด และ พันเอก แพง ไซยะวง หัวหน้ากรมตำรวจสกัดกั้นและต้านยาเสพติด เป็นคณะผู้แทนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ร่วมกับ นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรหนองคาย ผู้แทนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ผู้แทนตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ผู้แทนตำรวจภูธร จังหวัดนครพนม ผู้แทนกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ผู้แทน นบ.ยส.24 ผู้แทนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และผู้แทนหน่วยงานความมั่นคง ร่วมแถลงข่าวความสำเร็จในการจับกุมผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับคดียาเสพติด จำนวน 5 ราย จาก สปป.ลาว กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย 

นายอภิกิต กล่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากการประชุมทวิภาคีไทย-ลาว ระดับรัฐมนตรี ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 20 เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงในการร่วมมือกันติดตาม จับกุม และผลักดันผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับคดียาเสพติดกลับประเทศต้นทาง โดยฝ่าย สปป.ลาว ให้คำมั่น จะดำเนินการตามเป้าหมายที่ไทยร้องขอ จำนวน 21 ราย ในการปฏิบัติการล่าสุด สำนักงาน ป.ป.ส. โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 4 ได้ร่วมมือกับสำนักงานตรวจตราและควบคุมยาเสพติด กรมตำรวจสกัดกั้นและต้านยาเสพติด สปป.ลาว และหน่วยงานความมั่นคงทั้งสองประเทศ จับกุมผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับคดียาเสพติดได้รวม 5 ราย ได้แก่

1. นายกิตติชัย หรือ "โตโต้" หมายจับจากศาลจังหวัดหนองคาย และศาลจังหวัดอุดรธานี
2. นายธนากร หมายจับจากศาลจังหวัดอุดรธานี
3. นายเอกรัฐ หมายจับจากศาลจังหวัดนครพนม
4. นางสาวชลิตา หมายจับจากศาลจังหวัดนครพนม
5.    นายศรันย์ภัทร หมายจับจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช

ผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นนักค้ายาเสพติดที่หลบหนีการจับกุมไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังมีพฤติกรรมสั่งการลักลอบนำเข้ายาเสพติดเข้าสู่ประเทศไทย โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อจำหน่ายในหมู่บ้านและชุมชน ซึ่งสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความปลอดภัย และสุขภาวะของประชาชน

นายคณิศร ภาพีรนนท์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 4 เปิดเผยว่า “ความสำเร็จในครั้งนี้เป็นผลจากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดของหลายหน่วยงาน ไม่เพียงแต่จะนำผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีตามกฎหมาเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณให้กับเครือข่ายค้ายาเสพติดทั้งในและต่างประเทศว่า จะไม่สามารถหลบหนีความผิดได้ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใดก็ตาม”
นอกจากนี้ การดำเนินการในครั้งนี้ยังสอดรับกับนโยบายรัฐบาลชุดปัจจุบันในการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดอย่างจริงจัง

ยืนยันว่า สำนักงาน ป.ป.ส. จะยังคงเดินหน้าในการประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานความมั่นคง และหน่วยงานต่างประเทศ โดยเฉพาะ สปป.ลาว เพื่อเร่งติดตามผู้ต้องหาหลบหนีคดียาเสพติดที่ยังคงหลบหนีอยู่ การจับกุมและส่งตัวผู้ต้องหาในครั้งนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่สะท้อนถึงความร่วมมือระดับภูมิภาคที่มีประสิทธิภาพ และแสดงถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในการต่อต้านยาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรม