โอป้าคลั่ง ตามง้อแฟนเตะกระจกแตกบาดขาสาหัส เผยเคยถูกจับปืนปล่อยมาก่อเหตุซ้ำ
เมื่อเวลา 03.46 น. วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.อ.สนธยา ขนทรัพย์ รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุมีบุคคลคลุ้มคลั่ง พังบ้านเรือนประชาชน และได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ริมถนนพัทยากลาง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชา พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบนำกำลังไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ เป็นอาคารพาณิชย์ ชั้นล่างเปิดเป็นร้านนวดเพื่อสุขภาพ พบว่ากระจกประตูด้านหน้าร้านแตกกระจาย มีเลือดไหลสาดนองไปทั่วพื้น ส่วนตัวผู้ก่อเหตุยังคงคลุ้มคลั่งวิ่งหนีเข้าไปในร้านทำเล็บซึ่งอยู่ติดกัน แล้วไปนอนจมกองเลือดอยู่ในห้องคนรักเก่าในสภาพอิดโรย เนื่องจากเสียเลือดมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
เมื่อตรวจสอบภายในห้องนอนของอดีตแฟนเก่าของผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ที่ชั้น 3 ของอาคารพาณิชย์ติดกับร้านนวดที่เกิดเหตุพบว่าภายในห้อง มีข้าวของพังเสียหาย มีคราบเลือด เปรอะเปื้อนตามพื้น มีผู้ก่อเหตุนอนได้รับบาดเจ็บอยู่บนพื้น ส่วนอดีตแฟนสาวอยู่ในอาการหวาดกลัวนั่งหลบอยู่ด้านล่าง พร้อมตะโกนสั่งห้ามทุกคนบันทึกภาพ
สอบถามนางสมใจ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี แม่บ้านของร้านนวด ให้ข้อมูลว่า ตนเองนอนเฝ้าร้านนวดอยู่ด้านล่าง จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุได้ใช้เท้าเตะประตูกระจกเสียงดังสนั่น จนกระจกแตกกระจัดกระจาย ตอนแรกคิดว่ารถพุ่งชน ต้องสะดุ้งตื่นลุกขึ้นมาดูก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อพบว่าเป็นชาวต่างชาติอยู่ในอาการโวยวาย มีเลือดเปื้อนไปทั่วทั้งตัว เมื่อพนักงานบอกว่าจะแจ้งตำรวจ เจ้าตัวก็รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีเข้าไปในร้านทำเล็บด้านข้าง ตนเองจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
ตรวจสอบเบื้องต้นผู้ก่อเหตุรายนี้คือ MR.KIM อายุ 27 ปี สัญชาติเกาหลี ที่เคยก่อเหตุจับแฟนสาวขังไว้ในห้องคือที่ร้านทำเล็บแห่งนี้ หลังจับได้ว่าแฟนสาวปันใจให้ชายอื่น แล้วขี่จักรยาน หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ต้องตามจับกันอย่างโกลาหล อีกทั้งยังตรวจค้นเจออาวุธปืน ยี่ห้อ ซิกซาวเออร์ พี P 320 มีเครื่องกระสุนบรรจุอยู่ในแม็กกาซีนเต็มแม็ก 15 นัด และถูกดำเนินคดีไปเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่เป็นที่น่ากังวล จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ผ่านมาไม่ถึง 2 เดือน กลับออกมาก่อเหตุซ้ำจนชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เชื่อว่าเจ้าตัวน่าจะอยู่ระหว่างการประกันตัวรอการตัดสินคดี
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นั้นสร้างความหวาดกลัวให้ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการเกิดเหตุขึ้นซ้ำสอง โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บไปด้วย มีเพียงทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายเท่านั้น