เมื่อวันที่ 11 ส.ค.68 "วาสนา นาน่วม" ผู้สื่อข่าวอาวุโส และคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์สยามรัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Wassana Nanuam" ระบุว่า 2 ทหารไทย จบนายร้อยฝรั่งเศส รวบรวมหลักฐาน ยัน เส้นที่ เขมร ลาก จาก จุดสูงสุดของเกาะกูด ไปหาฝั่ง เพื่อกำหนดจุดบนฝั่ง
เส้นนี้ “ไม่ใช่เส้นเขตแดนทางทะเล”
อย่าให้ กัมพูชา โกงไทย ด้วยแผนที่เหล่านี้ “เส้นประ ”ที่ลากผ่านเกาะกูด
ใช้อ้างอิง เพื่อกำหนดเขตแดนทางบกเท่านั้น แต่ “ไม่ใช่เส้นเขตแดนทางทะเล”
2 นายทหารไทย คู่หู ที่จบนายร้อย แซงซีร์ ฝรั่งเศส ยังคงใช้ความรู้ด้านภาษาฝรั่งเศส และ จิตใจ ที่ต้องการจะรักษาแผ่นดินไทย ทำการศึกษาค้นคว้าเอกสาร สนธิสัญญา และแผนที่ และพบว่า กัมพูชา มีการใช้ “เส้นประ” ในแผนที่ หลอก ไทย
พล.ท.รศ.ดร.พีรพล สงนุ้ย นักวิชาการทหาร ด้านประวัติศาสตร์ และ พ.อ.ประชา สมิทธ์สมบูรณ์ ผช.ทูตทหารบกไทย ประจำกรุงปารีส ฝรั่งเศส ทำเอกสารขึ้นมา ชี้ชัด เรื่องเส้นประ ในแผนที่ เรื่อง เกาะกูด
โดยระบุว่า เอกสารจดหมายเหตุ ของคณะกรรมการปักปันเขตแดนระหว่างสยามกับอินโดจีนฝรั่งเศส ค.ศ. 1907.
1909 กระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส มีแผนที่ที่มีเส้นประ ลากจากเกาะกูด ถึงชายฝั่งเพื่อกำหนด
เขตแดนทางบกทั้งสิ้น 2 แบบ แบบ A มี 1 ฉบับแบบ B มี 3 ฉบับ รวมทั้งสิ้นมี 4 ฉบับ
แผนที่ทางการจัดทำโดยคณะกรรมการปักปันเขตแดนฯ หลังการสำรวจเสร็จสิ้น ไม่มี เส้นประ คือ แผนที่บังคับใช้จริง
เมื่อเดือนมกราคม ค.ศ. 1908 เกาะกูดมีคนพื้นเมืองและคนจีนอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่ง เพียงไม่กี่ครอบครัวเท่านั้น
การอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ส่วนหนึ่งส่วนใดของเกาะกูด โดยกัมพูชาด้วยเหตุผลทางประวัติศาสตร์ จึงไม่มีมูลแต่อย่างใด
จะเห็นได้ว่า กัมพูชา อาจจะอ้างแผนที่ ได้แค่ 2 แผ่น เป็นแผนที่ชั่วคราว แนบท้าย สนธิสัญญาฯ แต่ฉบับทางการทั้งหมด จะไม่มีเส้นประ จากเกาะกูด. ถึงชายฝั่งไทย
เพราะหลังสำรวจเสร็จ ได้ใช้ “แหลมสารพัดพิษ” เป็นจุดเริ่มต้น เขตแดนทางบก แทนแล้ว
เอกสารที่มาของการเคลมพื้นที่ทางทะเลของ กัมพูชา ที่สรุปเอาเองว่า เส้นซึ่งจริงๆ ตามสนธิสัญญา 1907 เป็นเส้นทึ่ใช้กำหนดจุดกำหนดเขตทางบก
โดยขีดจากจุดสูงสุดของเกาะกูด ไปหาฝั่ง เพื่อกำหนดจุดบนฝั่ง (ปัจจุบันคือแถวๆ คลองใหญ่) เส้นนี้ ไม่ใช่เส้นเขตแดนทางทะเล
#FranceSiam
#CambodiaFakeNewsMaker
#TruthFromThailand
#saintcyr