วันที่ 11 ส.ค.68 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า...
ประชาชนพึงพอใจกองทัพสูงสุด แนะเปลี่ยนรัฐบาล
ผลการสำรวจของนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เกี่ยวกับความเห็นของประชาชน ในหัวข้อ “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” มีผลการสำรวจน่าสนใจใน2ประเด็นคือ
1.ความไว้วางใจต่อหน่วยงานต่างๆ พบว่ากองทัพ : ได้รับความไว้วางใจสูงสุด 75.73% ค่อนข้างไว้วางใจ 19.31% รวม 95.04% กระทรวงการต่างประเทศ : ไว้วางใจมาก 4.89% ค่อนข้างไว้วางใจ 19.23% รวม 24.12% รัฐบาล : ไว้วางใจมาก 4.66% ค่อนข้างไว้วางใจ 11.45% รวม 16.11%
2.ความพึงพอใจพบว่ากองทัพ : ประชาชนมีความพึงพอใจมาก 75.42% ค่อนข้างพอใจ 19.85% รวม 95.27% กระทรวงการต่างประเทศ : พอใจมาก 4.81% ค่อนข้างพอใจ 20.38% รวม 25.19% รัฐบาล : พึงพอใจมาก 4.27% ค่อนข้างพอใจ 13.75% รวม 18.02%
จะเห็นได้ว่าความไว้วางใจและความพึงพอใจ มีผลการสำรวจที่สอดคล้องกัน ซึ่งหมายความว่า ประชาชนพึงพอใจกองทัพสูงสุด เมื่อรวมแล้วประมาณ 95.04% ในขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ มีความพึงพอใจ รวมแล้ว 24.12% ส่วนรัฐบาล มีความพึงพอใจ 16.11% แสดงให้เห็นว่าความพึงพอใจของประชาชน มีต่อกองทัพมีต่อทหารอยู่ในระดับสูงสุด ในขณะที่ส่วนของรัฐบาล ประชาชนมีความพึงพอใจและความไว้วางใจต่ำสุด ถือว่าเป็นความล้มเหลวของฝ่ายการเมืองในสถานการณ์ปัจจุบัน
จากการที่ประชาชนไว้วางใจและพึงพอใจต่อรัฐบาลต่ำสุดเช่นนี้ ส่งผลกระทบไปยังฝ่ายการเมืองอื่นๆด้วย ทำให้คะแนนนิยมพรรคการเมืองตกต่ำทุกพรรค สำหรับพรรคเพื่อไทยไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะความตกต่ำอยู่ในตัวเลขตัวเดียว พรรคประชาชนที่มีคะแนนนิยมสูงสุดในบรรดาพรรคการเมืองทั้งหมด แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ พรรคประชาชนก็ติดกับวาทะกรรม “มีทหารไว้ทำไม” รวมถึงการโพสต์ข้อความ “กองทัพส้นตีน” หรือการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลประชาชนกัมพูชาว่า ขัดต่อหลักสิทธิมนุษชน
ส่วนพรรคการเมืองอื่นๆไม่มีความเคลื่อนไหวที่โดดเด่น และความนิยมตกต่ำมาก ทั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ รวมไปถึงพรรคภูมิใจไทย ที่มีบทบาทน้อยมากในสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้กองทัพหรือทหารมีบทบาทสูงมาก จึงทำให้ประชาชนไว้วางใจและพึงพอใจมากที่สุด เพียงแต่กองทัพไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับการเมือง จึงเป็นโอกาสของฝ่ายการเมืองไม่ว่าพรรคการเมืองเก่าหรือพรรคการเมืองก่อตั้งใหม่ จะต้องปรับปรุงบทบาท และนโยบาย เพื่อหวังคะแนนนิยมจากคะแนนเสียงที่ศรัทธาต่อกองทัพและทหารมาเป็นคะแนนนิยมของตัวเองให้ได้
ส่วนรัฐบาลหรือรัฐบาลทั้งหมด จะพบว่าความเห็นของประชาชนที่ต้องการให้เปลี่ยนรัฐบาลมีมากถึง 27.10% โดยประชาชนตั้งความหวังว่า ถ้าเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว สถานการณ์จะดีขึ้น
นี่คือผลการสำรวจของนิด้าโพล ซึ่งบอกนัยยะทางการเมืองได้ระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นนัยยะทางการเมือง ที่พรรคการเมืองควรนำไปวิเคราะห์และขบคิดกันต่อไป