อธิบดีกรมฝนหลวงฯ ระบุ รมว.เกษตรฯ สั่งเร่งสอบข้อเท็จจริง เฮลิคอปเตอร์ฝนหลวงตก โดยด่วน เชื่อในหลวง ร.9 คุ้มครองให้ชาวฝนหลวงปลอดภัย วันนี้ (6 ก.พ.62) นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยถึงเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ฝนหลวง ประสบอุบัติเหตุตก ที่สนามบินจังหวัดนครสวรรค์ว่า ช่วงฤดูนี้เป็นช่วงปิดหน่วยฝนหลวงประจำปี ในขณะที่ยังมีหน่วยฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วจ.ระยอง จ.นครสวรรค์ ไว้ดำเนินการช่วยเหลือแก้ปัญหาฝุ่นละออง ทั้งนี้ ยังเป็นช่วงที่มีการซ่อมบำรุงเครื่องบิน ประจำปี และฝึกบินทบทวน ท่าฉุกเฉินต่างๆ ตามหลักนิรภัยการบิน สำหรับกรณีเฮลิคอปเตอร์ตก ได้ปฏิบัติการฝึกบินทบทวน ในการฝึกบินท่าฉุกเฉิน ครั้งนี้ ถ้ามีเหตุฉุกเฉินนำเครื่องลงจอดอย่างไร ซึ่งในขณะที่นำเครื่องลงจอด ได้เสียการทรงตัว นักบินควบคุมไม่ได้ เครื่องบินจึงกระแทกพื้นเล็กน้อย ในขณะที่เครื่องยังไม่หยุด จึงผลิกคว่ำ มีน้ำมันไหลออกมา ทำให้เกิดการรุกไหม้ โดยเจ้าหน้าที่ภาคพื้นที่พยายามดับเพลิงรุกไหม้ได้สำเร็จ ทำการช่วยเหลือ นักบิน 2 นาย ช่างเครื่อง 1 นาย ได้อย่างเรียบร้อย และปลอดภัยดี พร้อมกับนำส่งตัวไปตรวจเช็คสภาพร่างกายตามหลักการบิน ทั้งนี้ ได้แจ้งให้นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณื ได้ทราบและให้สอบข้อเท็จจริงโดยด่วน ซึ่งท่านมีความเป็นห่วงใยสอบถามอาการและให้ดูแลนักบินและช่างเครื่อง เมื่อมีความปลอดภัยแล้วได้ฝากให้ดูแลเป็นอย่างดี และดูแลความปลอดภัยนักบินและช่างเครื่องและเครื่องบินทุกลำก่อนขึ้นปฏิบัติการ “รมว.เกษตรฯ ฝากมาด้วยว่า ชาวฝนหลวง ปฏิบัติงานด้วยจิตใจบริสุทธ์มุ่งมั่นช่วยเหลือประชาชนตามรอยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 จึงได้รับการคุ้มครองให้ปลอดภัย”นายสุรสีห์ กล่าว ในส่วนสาเหตุหลักของการประสบอุบัติเหตุครั้งนี้ จะเร่งดำเนินการสอบข้อเท็จจริง ว่ามาจากเรื่องใด ต้องขอขอบคุณทุกท่านแสดงความห่วงใย เข้ามาจำนวนมาก ตนเองยืนยันว่าในเรื่องการปฏิบัติการฝนหลวงต้องใช้การบินเข้าเมฆ ซึ่งเรามีกำลังใจพร้อมทำให้ประชาชนอย่างเต็มที่ สำหรับเฮลิคอปเตอร์เป็นเครื่อง EUROCOPTER รุ่น AS 350 B 2 หมายเลข เกษตร 18306 การประสบอุบัติเหตุครั้งนี้ซึ่งอยู่ระหว่างบินฝึกท่าฉุกเฉิน โดยเฮลิคอปเตอร์ของกรมฝนหลวงฯ มีทั้งหมด 9 ลำ ซึ่งเมื่อปิดฐานปฏิบัติการฝนหลวงประจำปีในเดือนพฤศจิกายน จะมาตรวจและซ่อมบำรุง พร้อมกับบินฝึกทบทวนการนำเครื่องขึ้นลงในกรณีฉุกเฉินต่างๆ เช่นเดียวกับเครื่องบินปีกติดที่ใช้ปฏิบัติการฝนหลวงทุกลำ สำหรับ EUROCOPTER รุ่น AS 350 B 2 ลำนี้ใช้งานมา 15 ปี นายสุรสีห์ กล่าวยืนยันว่า มีการตรวจสอบและบำรุงเครื่องตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้คณะกรรมการนิรภัยการบินของกรมฝนหลวงฯ กำลังเร่งไปตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุดังกล่าวเพื่อให้ทราบผลโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ แม้จะเกิดอุบัติเหตุ แต่นักบิน ช่างเครื่อง และเจ้าหน้าที่กรมฝนหลวงการบินเกษตรไม่เสียขวัญกำลังใจ โดยการฝึกบินตามหลักนิรภัยการบินสำหรับเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ทุกลำยังคงต้องทำต่อไป แต่ได้ย้ำให้ตรวจสอบทั้งอากาศยานให้แน่ใจว่า ทุกอย่างสมบูรณ์ และให้นักบินระมัดระวังสูงสุด เพื่อเตรียมตัวในการปฏิบัติงานฝนหลวงตามแผนประจำปีในเดือนมีนาคม ในส่วนการปฏิบัติการของหน่วยฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วทั้งที่จังหวัดระยองและนครสวรรค์ในการลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลนั้น กรมฝนหลวงฯ ยังคงเดินหน้าปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่