กลายเป็นดราม่ายาวสำหรับเรื่องราวของ "หมอบี" กับ "วัดพระบาทน้ำพุ" ล่าสุดวันนี้ (10 ส.ค.68) เพจ อรรถรส ออกมาโพสต์ที่ประเด็นดราม่าเรื่อง “เงินบริจาค–ที่ดิน” ของวัดพระบาทน้ำพุ จากรายการลุยชนข่าว โดยในรายการข่าวทางคุณพุทธ ได้รายงานไว้หลายประเด็น สรุปได้ดังนี้
ประเด็นเรื่องเงินบริจาคที่พบส่วนต่าง
- มีประเด็นเรื่องเงินส่วนต่างเงินบริจาค ที่มีการตรวจพบส่วนต่างประมาณ 5.4 ล้านบาท (ตั้งแต่ปี 2566–2568).
- ทางคุณพุทธจึงเกิดคำถามว่าหากพบความผิดปกติตั้งแต่ปี 2566 เหตุใดถึงยืดมาถึงปัจจุบันโดยไม่ทักท้วงทันที.
- ทางด้านคำชี้แจงหลวงพ่ออลงกต เลยบอกว่า เพราะไว้ใจหมอบี
ประเด็นเรื่องที่ดินวัด
ก่อนหน้านั้นมันมีกระแสข่าว ที่ว่ามีการซื้อที่ดินวัด แต่เอาชื่อคนอื่นไปใส่แทน
ที่ดินที่ตรวจสอบได้นั้นมี 4 แปลง
- แปลงที่ 1 : 3 งาน 70 ตร.ว.
- แปลงที่ 2 : 74 ตร.ว.
- แปลงที่ 3 : 10 ไร่ 17 ตรว.
- แปลงที่ 4 : 14 ไร่ 1 งาน 15 ตรว.
โดยทั้งหมดระบุชื่อคุณวรสุดาอยู่หลังโฉนด
ทางหลวงพ่อจึงให้สัมฯ ว่าได้นำเงินให้คนอื่นไปชื้อที่ดินจริง แต่ทุกคนที่เอาเงินของวัดไป ก็จะมีการทำบันทึกข้อความว่าที่ดินนี้ เป็นของมูลนิธิ
หลวงพ่อยืนยันว่า ตนไม่มีที่ดินส่วนตัว และถ้าหลวงพ่อเอาเงินให้ใครไปซื้อ ที่ดินนั้นก็ต้องสร้างประโยชน์ เช่น สร้างโรงพยาบาล โรงเรียน
หลวงพ่อบอกว่า มีการทำบันทึกเป็นข้อตกลงกันไว้ ว่าใครที่มีชื่ออยู่ในที่ดิน จะต้องโอนเข้ามูลนิธิ เมื่อทางมูลนิธิได้มีการจัดตั้งเป็นที่เรียบร้อย (เพราะสมัยก่อนยังไม่มีมูลนิธิ)
ทางคุณพุทธจึงเกิดคำถามที่ว่า วันนี้มีมูลนิธิแล้ว ทำไมยังไม่มีการโอนย้ายที่ดินไปให้มูลนิธิ
นอกจากนี้หลวงพ่อยังให้สัมฯ อีกว่า
"ล่าสุดตอนนี้คนมาบริจาคน้อยลง เพราะขั้นต่ำคือได้วันละ 50,000-60,000 แต่วันนี้ได้เพียง 14,000"
ทางคุณวรสุดา (ปอ) ก็ออกมาชี้แจงประเด็น
- ซึ่งคุณวรสุดา คือ คนที่เคยทำงานอยู่ในมูลนิธิกับหลวงพ่อ มาก่อน
- ในส่วนเรื่องการซื้อที่ดิน ทางคุณปอ บอกว่า สมัยก่อนคนป่วยเป็นโรคเอสด์ สังคมจะรังเกียจ ก็เลยชื้อที่ดิน สร้างเป็นศูนย์บ้านพัก
- ซึ่งทางคุณปอ มีคุณอาเป็นไวยาวัจกร และคุณอาก็เคยทำแบบนี้มาก่อน โดยมีการชื้อที่ดิน 2000 กว่าไร่ เป็นชื่อของคุณอา
- แต่ในส่วนที่ดินที่เป็นชื่อคุณวรสุดา ที่จะคืนให้กับวัด ทางคุณปอบอกว่า เธอทำพินัยกรรมยกที่ดินให้มูลนิธิแล้ว เมื่อตอนที่เธอตาย ที่ดินจะเป็นของวัด
- คุณพุทธเลยเกิดคำถามว่า แล้วทำไมไม่คืนตั้งแต่ตอนนี้ ทำไมต้องรอตาย เพราะถ้าเป็นเงินวัด แล้วเอาไปซื้อที่ดิน โดยใช้ชื่อคนอื่น หลวงพ่ออาจจะมีปัญหาได้
- แล้วภายหลัง เธอให้สัมภาษณ์ว่าพร้อมโอนคืนได้ทันทีหากจำเป็น เพราะตนไม่ได้มีปัญหาอะไร และไม่ได้เจตนาจะสวมสิทธิ์ที่ดิน
- เพราะถ้าจะสวมสิทธิ์ คงเอาที่ดินไปสร้างเป็นบ้าน เป็นอาคารส่วนตัว
ประเด็นที่ดิน 2000 กว่าไร่ ของคุณอาคุณวรสุดา (ซึ่งเป็นอดีตไวยาวัจกรของวัด)
- ปัจจุบันคุณอาของคุณวรสุดา เสียชีวิตด้วยโรคโควิด
- ทำให้โฉนดที่ดินกว่า 2000 กว่าไร่ ที่คุณอาไปขอเงินจากวัดมาชื้อ เพื่อสร้างสาธารณะประโยชน์ ไม่รู้อยู่ไหน
- โดยที่ดินกว่า 2,000 ไร่ในชื่อ “คุณอา” เคยใช้สร้าง รร.ราชประชานุเคราะห์ 33 และโรงพยาบาลภายใต้มูลนิธิธรรมรักษ์
- ที่นี่พอคุณอาเสีย ที่ดินมันก็อาจจะตกไปเป็นของลูกหลาน แต่เธอบอกว่าที่จำได้ คือในโฉนด จะมีการสลักไว้ว่า ที่ดินนี้ เพื่อประโยชน์ของวัด
เรื่องนี้ยังคงต้องตามกันอย่างต่อเนื่องงงงง