วันที่ 9 ส.ค.68 รศ. นพ.ดิลก ภิยโยทัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า “อุปกรณ์สายสวนลากลิ่มเลือดสำหรับหลอดเลือดในสมอง” (Thrombectomy Device) เป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอุดตันเฉียบพลัน ช่วยลดความเสี่ยงอัมพฤกษ์-อัมพาตได้หากได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ที่ผ่านมาการใช้อุปกรณ์นี้ทางโรงพยาบาลต้องจัดซื้อจากต่างประเทศที่มีราคาสูงถึง 1–2 แสนบาทต่อชิ้น สำหรับผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) โรงพยาบาลสามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

สำหรับ “โครงการรักษาภาวะหลอดเลือดสมองอุดตันเฉียบพลันด้วยอุปกรณ์สายสวนลากลิ่มเลือดสำหรับหลอดเลือดในสมอง” ในระบบบัตรทองนั้น เป็นความร่วมมือระหว่างคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และมีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกันระหว่าง 2 หน่วยงาน เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2568 ที่ผ่านมา มีวัตถุประสงค์สำคัญ คือการสนับสนุนการใช้อุปกรณ์สลายลิ่มเลือด ที่พัฒนาร่วมกันระหว่างภาครัฐ เอกชน และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงทีมแพทย์จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ซึ่งมีราคาอยู่ที่ประมาณ 40,000 บาทต่อชุด ลดลงจากอุปกรณ์ที่นำเข้ากว่าครึ่ง

รศ. นพ.ดิลก กล่าวว่า ในด้านประสิทธิภาพของอุปกรณ์ฯ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เป็นโรงพยาบาลแห่งแรกที่ทดลองใช้อุปกรณ์สลายลิ่มเลือดที่ผลิตขึ้นนี้ พร้อมมีการเก็บข้อมูลทางคลินิกจนพิสูจน์แล้วว่า มีประสิทธิภาพเทียบเท่าอุปกรณ์นำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งได้รับการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และบัญชีนวัตกรรมไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนี้นความร่วมมือที่เกิดขึ้นนี้ จึงนับเป็นก้าวสำคัญในการช่วยให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอุดตันเฉียบพลันที่ใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท ได้เข้าถึงการรักษาได้มากขึ้น โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ซึ่งมีผู้ป่วยโรคเข้ารับการรักษาปีละกว่า 100–200 ราย นอกจากนี้โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ยังหน้าที่เป็นศูนย์ฝึกอบรมการใช้อุปกรณ์ให้แก่แพทย์ทั่วประเทศด้วย

ทั้งนี้ การใช้อุปกรณ์สายสวนลากลิ่มเลือดสำหรับหลอดเลือดในสมองที่พัฒนาขึ้นนี้ ยังช่วยให้การใช้งบประมาณในระบบบัตรทองเป็นไปอย่างคุ้มค่า ด้วยต้นทุนของชุดอุปกรณ์ฯ ที่ลดลง และยังเป็นการส่งเสริมนวัตกรรมทางการแพทย์ในประเทศ ตามนโยบายรัฐบาลในการลดพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ ลดขาดดุลการค้า และผลักดันให้ไทยมีศักยภาพด้านการแพทย์มากขึ้น

“ขณะนี้โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ มีความพร้อมให้การรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอุดตันเฉียบพลันด้วยอุปกรณ์

ในสิทธิบัตรทอง โดยได้จัดตั้งศูนย์ให้บริการเฉพาะทาง พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าว โดยเป็นหนึ่งในทีมพัฒนานวัตกรรมนี้ด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบที่เชื่อมโยงกับโรงพยาบาลต่างๆ ที่ต้องการส่งต่อผู้ป่วยมารับการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งโรคนี้ต้องแข่งขันกับเวลา ยิ่งรักษาเร็ว ผลลัพธ์ก็ยิ่งดีกับผู้ป่วย”

ด้าน ศ.นพ.สมบัติ มุ่งทวีพงษา รองคณบดีฝ่ายบริการสุขภาพและวิชาการ คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า อุปกรณ์ที่ใช้ลากลิ่มเลือดในหลอดเลือดสมองในประเทศไทย เดิมทีต้องนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด แต่ด้วยแพทย์ไทยที่ไปเรียนต่อเฉพาะทางที่สหรัฐอเมริกา และได้ร่วมมือกับแพทย์ในสหรัฐฯ ในการพัฒนาอุปกรณ์ดังกล่าวขึ้นมาเพื่อให้ตอบสนองต่อการทำงานมากที่สุด ที่สำคัญคือชิ้นส่วนในอุปกรณ์สายสวนลากลิ่มเลือดสำหรับหลอดเลือดในสมอง

บางส่วนผลิตในประเทศไทย อีกทั้งคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ทดลองใช้อุปกรณ์ตัวนี้และพบว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีต่อการรักษาผู้ป่วย ด้วยเหตุนี้ สปสช. เห็นว่าสามารถขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทยและลดการเสียดุลการค้ากับต่างประเทศได้ จึงได้ผลักดันให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในการใช้ลากลิ่มเลือดในหลอดเลือดสมองเพื่อรักษาผู้ป่วยในระบบบัตรทอง โดยสามารถเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการจาก สปสช. ได้อย่างเป็นระบบ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 

1.สายด่วน สปสช. 1330

2.ช่องทางออนไลน์

• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6

• Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

https://www.facebook.com/NHSO.Thailand