คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เดินหน้าส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านงานออกแบบจริง ด้วยการนำ นักศึกษาหลักสูตรออกแบบสภาพแวดล้อมภายใน ลงพื้นที่ชุมชน “ร้อยรักษ์” ตำบลปทุมรัตต์ จังหวัดร้อยเอ็ด พัฒนา “ศูนย์เรียนรู้ผ้าย้อมสีธรรมชาติกลุ่มทอผ้าร้อยรักษ์” ภายใต้โครงการออกแบบสภาพแวดล้อมกลุ่มทอร้อยรักษ์ อําเภอปทุมรัตต์ จังหวัดร้อยเอ็ด

อาจารย์อุกฤษ วรรณประภา อาจารย์ผู้รับผิดชอบโครงการ เปิดเผยว่า โครงการนี้มีลักษณะเป็นการเรียนรู้แบบบูรณาการหลายโมดูล โดยเริ่มจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับชุมชน ทั้งการออกแบบลวดลาย การกัดลายผ้า การย้อม และการทอผ้า เมื่อชุมชนมีผลิตภัณฑ์จำนวนมากขึ้น แต่ยังขาดพื้นที่จัดแสดงที่เหมาะสม จึงเกิดเป็นโจทย์ที่ 2 คือการ “ออกแบบพื้นที่จัดแสดงและเวิร์กช็อป” สำหรับชุมชน

โดยให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1-4 ได้ลงพื้นที่ร่วมกับคณาจารย์และผู้นำชุมชน รับฟังปัญหาและวิเคราะห์ความต้องการร่วมกัน ก่อนจะออกแบบพื้นที่จัดแสดงในขนาด 8x4 เมตร โดยมีการระดมความคิด ออกแบบ ทดลองจำลองจริง และวิเคราะห์งบประมาณเบื้องต้น ทั้งนี้ นักศึกษาได้พิจารณาเลือกวัสดุที่สามารถหาได้ในท้องถิ่น ใช้เฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in และ Modular เพื่อให้เหมาะกับบริบทและการใช้งานของชุมชน

นอกจากนี้พื้นที่ที่ออกแบบและก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วภายในพื้นที่ของแม่ทองใบ หัวหน้ากลุ่มทอผ้าร้อยรักษ์ ประกอบด้วย 4 โซนหลัก ได้แก่ โซนต้อนรับ อธิบายประวัติความเป็นมาของชุมชนทอผ้า จำนวนสมาชิกในกลุ่ม กระบวนการผลิต และอัตลักษณ์เฉพาะของพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้เยี่ยมชม , โซนเวิร์กช็อป เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวหรือผู้สนใจได้เรียนรู้กระบวนการย้อมผ้าด้วยสีจากธรรมชาติ เช่น การใช้ดินให้ได้สีเหลือง การใช้ไม้ให้ได้สีแดง และการย้อมสีจากครามให้เป็นสีน้ำเงิน

โซนจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ รวมทั้งผ้าทอเป็นผืน เสื้อผ้า กระเป๋า ผ้าพันคอ และของใช้อื่น ๆ ซึ่งแสดงถึงพัฒนาการของชุมชนหลังจากได้รับการสนับสนุนเชิงการออกแบบ และโซนจัดแสดงแฟชั่น จัดแสดงเสื้อผ้าในลักษณะโชว์รูมเพื่อให้เห็นความร่วมสมัยของผลิตภัณฑ์ และรองรับการขายหรือรับออร์เดอร์จากนักท่องเที่ยวหรือผู้สนใจ

อาจารย์อุกฤษ กล่าวว่า โครงการนี้ใช้งบประมาณสนับสนุนจาก โครงการ eisa (Education Institute Support Activity) โดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) งบประมาณ 350,000 บาท ครอบคลุมกระบวนการตั้งแต่การพัฒนาการออกแบบพื้นที่ ไปจนถึงการก่อสร้างจริง ซึ่งใช้เวลารวมประมาณ 4 เดือน แบ่งเป็นการศึกษาพื้นที่ 1 เดือน ออกแบบ 2 เดือน และผลิตจริง 1 เดือน โดยนักศึกษาที่เข้าร่วมแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกประมาณ 15 คนเป็นผู้รับผิดชอบการออกแบบและจัดการพื้นที่ทั้งหมด ได้รับการประเมินผลผ่านรายวิชา ส่วนกลุ่มที่ 2 ประมาณ 40 คน จากหลากหลายชั้นปี เข้ามาเรียนรู้ ลงแรง และสร้างประสบการณ์ร่วมในภาคสนาม

“ผลลัพธ์ที่จับต้องได้คือชุมชนมีพื้นที่จัดแสดงสินค้าที่ดีขึ้น ส่งผลต่อมูลค่าสินค้าและโอกาสในการขาย ส่วนประโยชน์ที่จับต้องไม่ได้คือความภาคภูมิใจของแม่ทองใบที่ได้เห็นบ้านของตัวเองได้รับการปรับปรุง และนักศึกษาเองก็ได้เรียนรู้กระบวนการออกแบบจากโจทย์จริง มีโอกาสทดลองผิดทดลองถูก และสร้างความเข้าใจกับผู้ใช้งานจริงในพื้นที่ เป็น Sandbox ของการเรียนรู้ที่มีคุณค่า” อาจารย์อุกฤษ กล่าว

นอกจากนี้ อาจารย์อุกฤษ ยังเปิดเผยอีกว่า หลังจากประสบความสำเร็จในการพัฒนาพื้นที่ภายในแล้ว คณะศิลปกรรมศาสตร์เตรียมต่อยอด โดยมีแผนให้นักศึกษาออกแบบ “โซนย้อมผ้าภายนอก” ของบ้านแม่ทองใบให้เป็นพื้นที่เวิร์กช็อปกลางแจ้ง รองรับกิจกรรมเรียนรู้สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้มาเยี่ยมชมในอนาคต

​​​​​​​