วันที่ 9 ส.ค.2568 คณะสมาชิกวุฒิสภา นำโดย นายพรเพิ่ม ทองศรี ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2568   ได้เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อพบปะเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ โดยมี นายเอกวัฒน์ พวงประโคน นายอำเภอบ้านกรวด พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้นำท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ให้การต้อนรับ

สำหรับพื้นที่อำเภอบ้านกรวด มี 9 ตำบล 118 หมู่บ้าน มีประชากรทั้งหมด 76,725 คน 24,330 ครัวเรือน โดยในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 24-28 ก.ค. 2568 มีการอพยพประชาชนไปในพื้นที่ปลอดภัย จำนวน 29,672 คน ไม่ประสงค์อพยพ จำนวน 11,666 คน รวมประชากรผู้ประสบภัยในพื้นที่ จำนวน 41,338 คน พบลูกกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่ จำนวน 251 ลูก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 คน บ้านเรือนเสียหาย จำนวน 6 หลัง รถยนต์เสียหาย จำนวน 2 คัน สัตว์เลี้ยงวัวตาย จำนวน 2 ตัว และบาดเจ็บ จำนวน 1 ตัว
ทั้งนี้ คณะสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้กล่าว ขอบคุณและชื่นชมเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่มีการเตรียมความพร้อมการอพยพและช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยเป็นอย่างดี พร้อมฝากให้หน่วยงานราชการในพื้นที่เร่งช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนให้ทันต่อสถานการณ์ และ สว.พร้อมเป็นสื่อกลางในการประสานกับหน่วยงานและภาคส่วนต่าง ๆ ในการดูแลประชาชน

ทั้งนี้คณะสมาชิกวุฒิสภาได้มอบเงินช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากลูกกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่ ประกอบด้วย ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย สัตว์เลี้ยงตาย จำนวน 2 ราย บ้านเรือนได้รับความเสียหาย จำนวน 7 ราย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

จากนั้น คณะฯ ได้ลงพื้นที่บ้านโคกกระชาย ตำบลสายตะกู และบ้านโคกงิ้ว ตำบลบ้านกรวด อำเภอบ้านกรวด ซึ่งมีบ้านเรือนบางหลังได้รับความเสียหายทั้งหลัง และบ้านเรือนบางหลังได้รับความเสียหายบางส่วนจากร่องรอยสะเก็ดระเบิด

นอกจากนี้ ยังได้เยี่ยมชมหลุมหลบภัยในพื้นที่ ซึ่งหน่วยงานราชการและภาคเอกชนได้ร่วมกันจัดทำขึ้นเพื่อมอบให้กับประชาชนในพื้นที่

อย่างไรก็ตามคณะฯ ได้รับหนังสือจากกลุ่มผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อขอให้สมาชิกวุฒิสภาช่วยเหลือบรรเทาและแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชาของผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์อีกด้วย