เมื่อเวลา 12.05 น. วันที่ 8 ส.ค. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงผลการประชุมศบ.ทก. ว่า ในส่วนของความมั่นคงภาพรวมสถานการณ์ชายแดนที่ผ่านมา เราได้มีการตรวจพบฝ่ายกัมพูชาตรึงกำลังที่ชายแดน พร้อมมีการเคลื่อนไหวด้านยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะในบางพื้นที่ ซึ่งฝ่ายไทยเองยังต้องตรวจตราและติดตามอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีการตรวจพบการบินของอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ในบางพื้นที่เช่นเดียวกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเป็นการเข้าข่ายยั่วยุบางจุด โดยทางฝ่ายทหารไทยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หน่วยปฏิบัติการได้ดำเนินการตามมาตรการตอบสนอง และควบคุมสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มการเฝ้าระวัง ตรวจตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่องในพื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะ
พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวต่อว่า ประเด็นสำคัญที่อยากเรียนประชาชนได้ทราบ คือผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทยกัมพูชา สมัยวิสามัญ (GBC) เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งเราได้มีการลงนามร่วมกันโดยประธานร่วมสองฝ่าย ที่มีประเด็นหลัก 13 ข้อ ที่สำคัญต่อการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ทางฝ่ายเราประเมินว่าการประชุมได้รับผลสำเร็จเป็นอย่างมาก ซึ่งหลายข้อ หลายประเด็นที่ฝ่ายไทยยืนยันและผลักดันขับเคลื่อนมาโดยตลอด หลักๆของการประเมินแล้วเราเห็นการเห็นพ้องต้องกันในการหยุดยิง ประชาชนจะได้รับประโยชน์ตรงนี้เต็มๆ จะสร้างความปลอดภัย สร้างความสันติสุขให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด จะสามารถกลับไปภูมิลำเนาและใช้ชีวิตได้อย่างปกติต่อไป
พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า สรุปในภาพรวมจากการประชุม GBC แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ระดับแรกการหารือของฝ่ายกองเลขานุการของทั้งสองประเทศถือว่าประสบความสำเร็จในการเจรจาและได้บรรลุข้อตกลงทุกข้อตามที่ทั้งสองฝ่ายต้องการ อีกระดับหนึ่งคือระดับของการประชุม GBC ถือว่าประสบความสำเร็จสองฝ่ายได้ร่วมลงนามข้อตกลง และข้อที่สุดท้ายที่เราต้องติดตามต่อไปคือการปฏิบัติตามข้อตกลงของทั้งสองฝ่าย ซึ่งแน่นอนวิงวอนและภาวนาว่าฝ่ายกัมพูชาจะแสดงความจริงใจในการปฏิบัติตามข้อตกลงต่างๆเหล่านี้ ซึ่งเราต้องติดตามกันต่อไป
พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวด้วยว่า ขอสรุปด้านความมั่นคงจากการที่ได้ไปเยือนมาเลเซียทางประธานของฝ่ายไทยได้พบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้รับการยืนยันว่าบทบาทของมาเลเซียและประเทศกลุ่มสมาชิกอาเซียนเห็นพ้องต้องกันว่าบทบาทของประเทศเหล่านี้จะดำรงบทบาทเฉพาะเป็นผู้สังเกตการณ์ โดยกลไกการดำเนินการในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชายังคงให้ไทยและกัมพูชาดำเนินการสองฝ่ายเท่านั้น เป็นลักษณะของทวิภาคี ส่วนฝ่ายสหรัฐฯและจีนเป็นผู้สังเกตการณ์ และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนทั้งสองฝ่ายไทยและกัมพูชาเพื่อเจรจาตามข้อตกลงจุดยิงให้ประสบความสำเร็จบรรลุเป้าหมายทั้งสองฝ่าย และภาวนาว่าจะเห็นการแก้ไขปัญหาของความขัดแย้งนั้นได้อย่างยั่งยืน